โดยในช่วงระยะสองสามปีที่ผ่านมาทางบริษัท Sony ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเป็นหนึ่งในผู้นำเทคโนโลยีในด้านการบันทึกภาพแบบดิจิทัลระดับโลก ดังจะเห็นได้จากการเดินหน้าเปิดตัวกล้องถ่ายภาพ กล้องวีดีโอและเลนส์ระดับมือโปรรุ่นต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนี่อง ซึ่งล้วนแต่มีการบรรจุเทคโนโลยีล้ำสมัยล่าสุดใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์เหล่านั้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อทาง Sony ได้ตัดสินใจก้าวเข้ามาสู่วงการกล้อง Action Cam จึงเป็นการสร้างสีสันให้กับตลาดกล้อง Action cam ได้อย่างน่าติดตามเป็นอย่างมาก
คุณสมบัติเด่น
กล้อง FDR-3000 จัดเป็นกล้อง Action cam เจนเนอเรชั่นล่า
สุดจาก Sony ที่ถูกพัฒนาต่อยอดขึ้นมาจากกล้อง Action cam รุ่นแรกๆ ของทาง Sony ซึ่งมีการออกแบบมาอย่างโดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะในแบบของตัวเองมาตั้งแต่ในรุ่นแรก ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงภายนอกที่แตกต่างไปจากกล้อง Action cam รุ่นอื่นๆในท้องตลาด ด้วยรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมแบนบางที่จับถือใช้งานได้อย่างถนัดมือ พร้อมผิวสัมผัสเรียบเงาสีขาวสะอาดตาเป็นเ
อกลักษณ์แบบเดียวกับกล้องรุ่นพี่ FDR-X1000V และยังมีน้ำหนักเท่ากันที่ 114 กรัม (โดยมีกล้องรุ่น HDR-AS 50 ที่มีบอดี้เป็นสีดำ)
แน่นอนว่ากล้องรุ่น FDR-X3000 นี้มาพร้อมกับคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมใหม่ๆ ที่ทำให้มันมีความโดดเด่นเหนือคู่แข่งรุ่นอื่นๆในท้องตลาดโดยเฉพาะในเรื่องของฟังก์ชั่นกันสั่นที่เลนส์แบบ B.O.SS (Balanced Optical SteadyShot Stabilisation) ซึ่งเทคโนโลยีของระบบ B.O.SS นี้ จะถูกติดตั้ง
อยู่ในส่วนของชุดเลนส์ โดยจะมีชิ้นเลนส์ลอยตัวอิสระ (Floating-lens unit) ทำหน้าที่ชดเชยค่าการสั่นไหวที่เกิดขึ้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเหนือกว่าการใช้ฟังก์ชั่นชดเชยการสั่นเป็นแบบอิเลคโทรนิคส์หรือจากโปรแกรมอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อมีระบบกันสั่นแบบแมคคามิค ไม่ใช่เป็นการใช้ซอฟท์แวร์จึงทำให้สามารถใช้งานกับโหมดวีดีโอ 4K ได้ ซึ่งไม่สามารถทำได้ด้วยกล้อง FDR-X1000V รุ่นท๊อปก่อนหน้านี้
หัวใจหลักของกล้อง FDR-3000 อยู่ที่การใช้เซ็นเซอร์ภาพ “Exmore R” CMOS ประสิทธิภาพสูง ขนาด 1/2.5” และ
หน่วยประมวลภาพ BIONZ X อันชาญฉลาด ที่ล้วนแต่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการผลิตแบบเดียวกับที่ใช้ในกล้องถ่ายภาพของ Sony ทำให้ภาพถ่ายที่ได้มีสีสันสวยงาม คมชัด และมี Noise ต่ำ อีกทั้งกล้อง FDR-X3000 มาพร้อมกับเลนส์ Zeiss Tessar แบบมัลติโค้ท ขนาด 17 มม. ที่มีรูรับแสงคงที่และมีความไวแสงขนาด F2.8โดยให้ระยะโฟกัสต่ำสุด 50 เซนติเมตร โดยกล้อง FDR-X3000 ยังสามารถปรับเปลี่ยนช่วงความยาวโฟกัสได้ 3 ค่า (แบบดิจิทัล) ได้แก่ W=17 มม., M=23 มม. และ N=32 มม. ซึ่งให้ผลลัพท์ภาพถ่ายที่ยังคงดูดีโดยมีคุณภาพของภาพที่ลดลงไปบ้างตามสภาพแสงขณะใช้งาน
บอดี้เปล่าๆของกล้อง FDR-X3000 นั้น มีการซีลป้องกันละอองน้ำและฝุ่น (Splash proof) มาในระดับหนึ่ง (ตามมาตรฐาน IPX4) ซึ่งยังไม่สามารถนำกล้องลงไปใช้งานใต้น้ำได้ แต่ก็เพียงพอกับการใช้งานที่สมบุกสมบันได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าจะให้มีการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็ควรนำตัวกล้องไปบรรจุใส่ไว้ในเฮ้าส์ซิ่งกันน้ำ (แถมมาใหักับชุดกล้อง) ซึ่งจะทำให้กล้องสามารถนำไปใช้งานใต้น้ำได้ลึกถึง 60 เมตร รวมถึงช่วยป้องกันความเสียหายจากฝุ่นทรายและจากการตกและกระแทกได้เป็นอย่างดี ตัวเฮ้าส์ซิ่งกันน้ำผลิตมาจากพลาสติกใส
ขึ้นรูปเข้ากับบอดี้กล้องได้อย่างแนบเนียน ทำให้มีขนาดที่เล็กกระทัดรัดแทบไม่ต่างไปจากบอดี้กล้องเปล่าๆ โดยมีพอร์ทเลนส์ด้านหน้าเป็นกรอบทรงสี่เหลี่ยมและใช้เป็นฝาปิดเฮาส์ซิ่งไปด้วยในตัว โดยมีบานพับพลาสติคขนาดเล็กบริเวณด้านล่างเป็นตัวเกี่ยวล็อค ซึ่งก็ให้ความแน่นหนาและแข็งแรงเพียงพอกับการใช้งานจริงได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งทำการการล็อคและปลดล็อคได้อย่างรวดเร็ว โดยมีไฟ LED แสดงสถานะแสดงให้เห็นถึงสามจุดทางด้านบนตัวกล้อง ด้านหลังกล้องและบริเวณด้านหน้า (ในรุ่น HDR-AS50 ก่อนหน้ามีแค่ด้านบนกับด้านหลัง) ทำให้ง่ายต่อการตรวจเช็คความพร้อมของกล้องก่อนจะใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อใช้งานกล้องในแบบเซลฟี่จากการเช็คไฟสถานะทางด้านหน้า
แน่นอนว่าการตัดสินใจเลือกกล้องแบบ Action cam นั้น ความคล่องตัวในการใช้งานและอุปกรณ์เสริมที่รองรับนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
ในอันดับต้นๆพอๆกับคุณภาพที่ดีของไฟล์ภาพด้วยเช่นกัน ซึ่งทาง Sony ก็ได้ทำการบ้านในจุดนี้มาค่อนข้างดี โดยมีการออกแบบอุปกรณ์เสริมมากมายที่เอาไว้ใช้กับกล้อง FDR-3000 ไม่ว่าจะเป็นตัวรีโมท Live view แบบไร้สายทรงสี่เหลี่ยมขนาดเล็กกระทัดรัด ใช้ควบคุมและสั่งงานตัวกล้องผ่านทางจอแสดงผลขนาด 3 x 2.5 เซนติเมตร ที่ให้ภาพแบบ Live view ที่คมชัดมีสีสันสมจริงและมีอินเตอร์เฟซที่เข้าใจง่ายทั้งในส่วนการแสดงค่าต่างๆของกล้อง ไม่ว่าจะเป็นปริมาณแบตเตอรรี่ ทั้งของตัวกล้องและของตัวรีโมท นาฬิกา รูปแบบการเชื่อมต่อไร้สาย โหมดบันทึกภาพ ความละเอียดของภาพและวิดีโอ มุมรับภาพของกล้อง และระบบกันสั่น ที่มีมาให้อย่างครบครัน โดยมีเมนูสำหรับตั้งค่ากล้องของโหมดภาพนิ่งและวิดีโอที่เข้าใจง่าย รวมถึงสามารถเพลย์แบ็คเพื่อชมภาพได้ทันทีผ่านทางหน้าจอของรีโมท ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าอาจจะดูได้ยากในบางครั้งเมื่อใช้งานกลางแจ้งที่มีแสงจ้ามากๆ
กล้อง FDR-X3000 มาพร้อมกับสายรัดข้อมือแบบนาฬิกาที่ใช้ติดและปลดตัวรีโมทไร้สายออกได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังมีออปชั่นเสริม (ซื้อต่างหาก) อาทิ ด้าม Shooting Grip (VCT-STG1) ที่ใช้ติดตั้งกล้องและยึดรีโมทเอาไว้ด้วยกัน และยังสามารถใช้เป็นขาตั้งกล้องในตัวได้ด้วย หรือจะเป็น Backpack Mount หรือ Cap Clipใช้ยึดกล้องกับหมวก
รวมถึงกรอบกระจกเสริมป้องกัน (MC Protector) ที่มีประโยชน์มากเวลาใช้งานกล้องนอกยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นจักรยานวิบาก มอเตอร์ไซด์ รถยนต์ที่อาจมีเศษหินปลิวกระเด็นมาทำความเสียหายให้กับเลนส์ชิ้นหน้าของกล้องได้ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยๆ หรือจะเป็นกริปนิ้วเสียบ (Finger Grip) ที่มีขนาดเล็กกระทัดรัด ใช้งานได้อย่างคล่องตัวอีกทั้งยังสามารถติดตั้งรีโมทไร้สายเอาไว้ด้วยกัน ทำการควบคุมกล้องและดูจอ LCD ไปได้ในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม กล้อง FDR-X3000ใช้รูยึดขาตั้งกล้องแบบเกลียวขนาดมาตรฐาน ที่มีความแข็งแรงและง่ายต่อการดัดแปลงเอาอุปกรณ์เสริมของกล้อง Action Cam จากผู้ผลิตรายอื่นที่มีขายอยู่มาใช้ร่วมกันได้อย่างหลากหลาย ซึ่งนับเป็นอีกจุดหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานได้เป็นอย่างดี