Skateway Life

Panasonic Lumix GH5S Hands on review

ขีดสุดแห่งการสร้างสรรค์วีดีโอระดับมืออาชีพจากตระกูล GH

March 14, 2018
3243 Views

กล้อง Lumix ในตระกูล GH เป็นกล้องที่สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัท Panasonic มาตั้งแต่เริ่มแรก ด้วยแนวคิดในการออกแบบกล้องแบบไฮบริดภาพนิ่ง/วีดีโอ (Hybrid still and video camera) ที่มุ่งเน้นตอบสนองทั้งทางด้านการบันทึกภาพนิ่งอันยอดเยี่ยม ควบคู่ไปกับการเน้นคุณสมบัติด้านการบันทึกวีดีโอคุณภาพสูงระดับมืออาชีพอีกด้วย โดยมีกล้อง Lumix GH4 เป็นแนวหน้าที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั่วโลก ด้วยสเป็คกล้องที่ล้ำหน้าและจัดมาให้อย่างเต็มที่ จนกระทั่งมาถึงกล้อง Lumix GH5 ซึ่งเป็นกล้องเจเนอเรชั่นที่ 5 ของตระกูล GH ที่ได้ถูกอัพเกรดประสิทธิภาพขึ้นมาจากกล้อง GH4 ทั้งจากโครงสร้างบอดี้ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น จับถือใช้งานได้กระชับมั่นคงจากกริปมือจับที่อวบอ้วน พร้อมเซ็นเซอร์ภาพรุ่นใหม่ ที่มีความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 20.3 ล้านพิกเซล โหมดวีดีโอ 4K ที่ 60p ฟังก์ชั่น 6K Photo ช่องใส่การ์ด SD UHS-11 คู่ และระบบกันสั่น IS ในตัวแบบ 5 แกน ที่มีประโยชน์มากสำหรับช่างภาพวีดีโอสายสตรีท แอคชั่น ที่ต้องการความคล่องตัวในการเก็บภาพวีดีโอภาคสนาม โดยไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์กันสั่นพิเศษต่างหากที่ต้องใช้เวลาในการเซ็ทอัพและควบคุมใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพได้ค่อนข้างยาก

         แน่นอนว่ากล้อง Lumix GH5 นั้นยังคงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเคยในฐานะกล้องแบบไฮบริดรุ่นท็อปในตระกูล GH ของ Panasonic ที่มีความสามารถครอบคลุมทั้งในด้านการบันทึกวีดีโอระดับมืออาชีพ ควบคู่ไปกับการตอบสนองต่อการถ่ายภาพนิ่งได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ทำให้การเปิดตัวกล้อง Lumix GH5 S รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับสุดยอดสเป็คที่โดดเด่นในด้านการบันทึกวีดีโอระดับมืออาชีพได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นงานภาพยนต์ หนังโฆษณา รวมถึงงานบรอดคาสต์ ได้โดยตรงทันที  ซึ่งกล้อง Lumix GH5 S นั้นได้รับการเปิดตัวออกมาพร้อมกับกล้อง Lumix G9 ซึ่งเป็นกล้องรุ่นท๊อปในตระกูล G ที่โดดเด่นด้านภาพนิ่งในขณะที่กล้อง Lumix GH5 ก็ยังคงมีการผลิตและวางจำหน่ายคู่กันต่อไป

คุณสมบัติหลักที่โดดเด่น

      กล้อง Lumix GH5 S จัดเป็นกล้องมิลเลอร์เลสเฉพาะกิจที่ถูกออกแบบมาเพื่อการบันทึกวีดีโอระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ ที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Digital Live MOS รุ่นใหม่ ความละเอียด 10.2 ล้านพิกเซล ( 20.3 ล้านพิกเซลในรุ่น GH5) ร่วมกับหน่วยประมวลผลภาพ Venus Engine และเทคโนโลยี Dual Native ISO อันชาญฉลาด ส่งผลให้กล้อง Lumix GH5 S เป็นกล้องมิลเลอร์เลส Micro Four Thirds ที่มีขีดความสามารถสูงมากในการบันทึกภาพวีดีโอภายใต้สภาพแสงต่ำมากๆ ด้วยค่าความไวแสงที่สูงมากอย่างน่าทึ่งในขณะที่มี Noise ที่ต่ำมาก โดยสามารถบันทึกวีดีโอ 4K ที่ 60p และในแบบ Full HD 1080 ได้สูงสุดถึง 240 fps ช่วยให้ได้ไฟล์วีดีโอแบบซุปเปอร์สโลว์ที่นุ่มนวลสวยงาม พร้อมฟังก์ชั่น V-Log L Gamma ที่ติดตั้งมาให้ในตัวกล้อง

รูปทรงภายนอก

      กล้อง Lumix GH5 S ยังคงมีรูปทรงและหน้าตาแบบเดียวกัน กล้อง Lumix GH5  สิ่งที่แตกต่างและเห็นได้ชัดเจนก็คือปุ่มกด "REC" วีดีโอและวงแหวนใต้แป้นหมุนปรับโหมดไดร์ฟที่เป็นสีแดง รวมถึงโลโก้ด้านหน้าของตัวกล้องที่เน้นตัวอักษร "S" เป็นสีแดงโดดเด่นชัดเจนเช่นกัน โครงสร้างบอดี้ผลิตจากแม็กนีเซียอัลลอยด์ที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบาพร้อมได้รับการซีลรอยต่อรอบๆกล้องเพื่อป้องกันฝุ่นผงและละอองน้ำมาเป็นอย่างดี โดยที่บอดี้กล้อง Lumix GH5 S นั้นมีนำ้หนักเบาขึ้นกว่าเดิมราวๆ 65 กรัม จากการตัดกลไกของระบบกันสั่น IS ออกไปจากบอดี้ ซึ่งดูจากตัวเลขแล้วอาจจะไม่มากแต่ก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง โดยที่การตัดกลไกระบบกันสั่นออกไปนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ โดยเฉพาะกับช่างภาพนิ่งแต่สำหรับช่างภาพวีดีโอมืออาชีพแล้วเป็นเรื่องปกติที่จะใช้กล้องร่วมกับอุปกรณ์กันสั่นเฉพาะกิจแบบกิมบอล (gimbal) มาใช้ช่วยป้องกันกล้องสั่นไหวในขณะบันทึกภาพเพื่อให้ได้ฟุตเทจที่นุ่มนวลและควบคุมได้มากกว่าการใช้ระบบกันสั่นในตัวกล้องหรือในเลนส์ (ซึ่งตามปกติก็ถูกนำมาใช้กับกล้อง GH5 และ GH4 กันอยู่แล้ว) และข้อดีอีกอย่างจากการที่ตัวเซ็นเซอร์ถูกยึดติดตายตัวกับบอดี้โดยไม่มีกลไกกันสั่นลอยตัว (Floating design) จะช่วยลดปัญหาการสั่นไหวที่เกิดจากการขยับของตัวเซ็นเซอร์ได้ (แม้จะปิดระบบ IS และใช้กิมบอล) ทำให้ได้ภาพที่มีความคมชัดปราศจากการสั่นไหวได้อย่างสูงสุดเมื่อนำกล้องมาใช้ร่วมกับชุดกิมบอลเพื่อบันทึกภาพ

การใช้งานจริง

      ในครั้งนี้ทางบริษัท Panasonic Thailand ได้นำกล้อง Lumix GH5 S มาให้ทดลองใช้งานกันอย่างเต็มที่ โดยพาไปทดลองใช้งานจริงกันที่ Flow House Bangkok สุขุมวิท 26 ซึ่งเป็นสถานที่เล่นเซิร์ฟจากคลื่นเทียมด้วยแผ่น Flow board แห่งแรกและแห่งเดียวในกรุงเทพ โดยที่กล้อง Lumix GH5 S ได้สร้างความประทับใจตั้งแต่หยิบจับขึ้นมาในครั้งแรกจากขนาดและน้ำหนักโดยรวมที่เหมาะมือ ซึ่งเมื่อจับเทียบกับบอดี้ GH5 แล้วจะรู้สึกได้ถึงความเบาที่แตกต่าง โดยบอดี้ GH5 S จะเบากว่าเล็กน้อย (เหมือนกล้อง GH5 ที่ไม่ได้ใส่แบตเตอรี่) จุดต่อไปก็คือการเพิ่มสีสันเข้าไปบนบอดี้กล้องด้วยสีแดงสดชัดเจนทั้งในส่วนของปุ่ม "REC" วีดีโอ ใต้วงแหวนแป้นหมุนโหมดไดร์ฟ และที่โลโก้ "S" ได้อย่างมีสไตล์ ในส่วนของการเชื่อมต่อและออปชั่นการใช้งานส่วนใหญ่ จะยังคงมีรูปแบบเดียวกับกล้อง GH5 ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของพอร์ท HDMI แบบฟลูไซท์ พอร์ท USB type ช่องเสียบหูฟัง ช่องเสียบรีโมท และช่องเสียบการ์ดคู่ รองรับการ์ด SD แบบ UHS-II ถึงแม้ว่ากล้อง GH5 S จะไม่มีระบบกันสั่นในตัวแบบ 5 แกน (Dual IS 2) มาให้ แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้กล้อง GH5 S ก็ยังได้ประโยชน์จากระบบกันสั่นแบบออปติคอลในตัวเลนส์หรือจะใช้อุปกรณ์กันสั่นเฉพาะกิจแบบกิมบอล (Gimbol) ร่วมกับบอดี้กล้องในกรณีของผู้ใช้ระดับมืออาชีพซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

ตัวอย่างคลิปวีดีโอที่ถ่ายด้วยกล้อง Lumix GH5 S พร้อมเลนส์คิท 12-60 มม. f/2.8 ระบบโฟกัสอัติโนมัติ AE-S ไม่ใช้ขาตั้งกล้อง

       จากการที่ทาง Panasonic ได้วางตำแหน่งให้กล้อง Lumix GH5 S เป็นกล้องที่ตอบสนองด้านการบันทึกวิดีโอระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ เราจึงเน้นทดสอบในส่วนของคุณภาพไฟล์วีดีโอที่ออกมาจากกล้อง Lumix GH5 S โดยเฉพาะคุณภาพของไฟล์วีดีโอที่ได้จากเซนเซอร์ภาพ Digital Live Mos ที่มีความละเอียดเพียง 10.2 ล้าน (GH5 มี 20.3 ล้านพิกเซล) ทาง Panasonic ได้อธิบายเหตุผลและข้อได้เปรียบของการลดจำนวนพิกเซลให้น้อยลงในขณะที่มีพื้นที่บนตัวเซ็นเซอร์เท่าเดิม ทำให้ขนาดของโฟโต้ไซท์ (Photosite) หรือพิกเซลแต่ละตัวบนเซ็นเซอร์มีขนาดทางกายภาพที่ใหญ่มากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับแสงของพิกเซลแต่ละตัวให้ดีมากยิ่งขึ้นช่วยให้สามารถทำการบันทึกภาพในสภาพแสงต่ำได้อย่างยอดเยี่ยม ดังจะเห็นได้จากค่าความไวแสงมาตรฐานที่เพิ่มมากขึ้นเป็น ISO 160-ISO 51200 (ค่าขยาย ISO 80-204,800) และเพื่อที่จะให้กล้อง Lumix GH5 S เป็นสุดยอดกล้องสำหรับการบันทึกภาพวีดีโอในสภาพแสงต่ำ ทาง Panasonic จึงได้นำเอาเทคโนโลยี Dual Native ISO แบบเดียวกับที่ใช้อยู่ในกล้องวีดีโอไฮเอนด์ Hi end ระดับมืออาชีพ อย่าง Panasonic Varicam 35 4K และกล้อง Panasonic EVA 1 ซึ่งกล้องทั้งสองตัวนี้จัดเป็นสุดยอดกล้องวีดีโอมืออาชีพเพื่อการบันทึกภาพวิดีโอในสภาพแสงน้อยที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

ตัวอย่างคลิปวีดีโอที่ถ่ายจากกล้อง Lumix GH5 S ด้วยค่า ISO 10,000

บทสรุป Hands on

        จากการได้สัมผัสกล้อง Lumix GH5S แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ต้องยอมรับว่านี่เป็นกล้องที่มีความพิเศษในการใช้งาน รวมถึงให้ผลลัพท์วิดีโอระดับมืออาชีพในขณะที่ยังคงตอบสนองกับการถ่ายภาพนิ่งได้อย่างน่าประทับใจไม่แพ้กัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ภาพความละเอียดขนาด 10.2 ล้านพิกเซล แน่นอนว่าการตัดระบบป้องกันการสั่นไหว IS ในตัวแบบ 5 แกนออกไปนั้นอาจจะไม่ส่งผลต่อการใช้งานของช่างภาพวิดีโอมืออาชีพมากนัก แต่อาจมีผลต่อการตัดสินใจช่างภาพนิ่ง ซึ่งแน่นอนว่านี่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายหลักของกล้องนี้และอาจจะต้องมองไปที่กล้อง Lumix GH5 หรือไม่ก็เป็น Lumix G9 ที่ถูกเปิดตัวออกมาพร้อมกันมากกว่า คุณภาพไฟล์วีดีโอที่ได้จากกล้อง Lumix GH5 S จากการทดลองถ่ายภาพภายใต้สภาพแสงต่ำมากๆโดยใช้ค่าความไวแสงที่สูงมากถึงระดับ ISO 10,000   คุณภาพของไฟล์วีดีโอที่ยังคงใสเคลียร์ดูดี มี Noise เกิดให้เห็นน้อยมาก ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับช่างภาพวีดีโอที่ต้องอยู่ภายใต้สภาพแสงต่ำมากๆอยู่เป็นประจำ กล้อง Lumix GH5 S เป็นคำตอบที่ชัดเจนของกล้องแบบไฮบริดที่มีขนาดเล็กและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพรองรับการสร้างสรรค์ผลงานระดับมืออาชีพได้อย่างไม่ต้องสงสัย

You may be interested

ฟูจิฟิล์ม เปิดแคมเปญ “Make More Magic” ถ่ายทอดความรู้สึกยิ่งใหญ่ที่ไฟล์ดิจิทัลให้ไม่ได้ ส่งสื่อโฆษณา TVC และ OOH แสนอบอุ่นใจ ตอกย้ำการสร้าง “MAGIC MOMENT” ด้วยฟิล์มอินสแตกซ์
นำเสนอปรินเตอร์ฟิล์มอินสแตนท์ 3 รุ่น มาพร้อมคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์
แต่งแต้มความสุขสนุกสนาน ให้ทุกความทรงจำพิเศษกว่าที่เคย!
NEWS
719 views
NEWS
719 views

ฟูจิฟิล์ม เปิดแคมเปญ “Make More Magic” ถ่ายทอดความรู้สึกยิ่งใหญ่ที่ไฟล์ดิจิทัลให้ไม่ได้ ส่งสื่อโฆษณา TVC และ OOH แสนอบอุ่นใจ ตอกย้ำการสร้าง “MAGIC MOMENT” ด้วยฟิล์มอินสแตกซ์
นำเสนอปรินเตอร์ฟิล์มอินสแตนท์ 3 รุ่น มาพร้อมคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์
แต่งแต้มความสุขสนุกสนาน ให้ทุกความทรงจำพิเศษกว่าที่เคย!

skatewaylife - December 30, 2023

บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดแคมเปญโฆษณาชุดพิเศษภายใต้ แท็กไลน์ “Make More Magic” ครอบคลุมทั้งสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ (TVC) และสื่อโฆษณานอกบ้าน (Out of Home - OOH) ถ่ายทอดเรื่องราวการเก็บทุกช่วงเวลาดี ๆ ในชีวิตด้วยภาพปรินต์อินสแตกซ์จากปรินเตอร์ฟิล์มของฟูจิฟิล์มที่เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้ง่าย…

ไทย ปลุกกระแส ปาร์กัวร์ 
ผ่านโปรเจ็ค Run The Ship โดย Red Bull และ Team Farang
NEWS
796 views
NEWS
796 views

ไทย ปลุกกระแส ปาร์กัวร์ 
ผ่านโปรเจ็ค Run The Ship โดย Red Bull และ Team Farang

skatewaylife - May 25, 2023

Red Bull และ Team Farang นำเสนอมิติใหม่วงการปาร์กัวร์ไทย กับโปรเจ็ค Run The Ship ที่เกิดขึ้นบนเรือที่ถูกทิ้งร้างในถิ่นทุรกันดารอันกว้างใหญ่ของไทย นับตั้งแต่โปรเจ็คนี้ประสบความสำเร็จ Team Farang ก็ได้รับการชื่นชมในหมู่คนในท้องถิ่นว่ามีความคิดสร้างสรรค์และมีวิสัยทัศน์ [siteorigin_widget class="SiteOrigin_Widget_Image_Widget"][/siteorigin_widget][siteorigin_widget class="SiteOrigin_Widget_Image_Widget"][/siteorigin_widget] Team Farang…

ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย เปิดตัว INSTAX mini 12
กล้องฟิล์มอินสแตนท์รุ่นใหม่ ชูดีไซน์สวยโดดโด่นในโทนพาสเทลสดใส
NEWS
1099 views
NEWS
1099 views

ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย เปิดตัว INSTAX mini 12
กล้องฟิล์มอินสแตนท์รุ่นใหม่ ชูดีไซน์สวยโดดโด่นในโทนพาสเทลสดใส

skatewaylife - March 7, 2023

บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวกล้องฟิล์มอินสแตนท์รุ่นใหม่ล่าสุด “INSTAX mini 12” ภายใต้สโลแกน “Fill your world with joy” ชวนคนรุ่นใหม่ที่รักการถ่ายภาพมาร่วมแต่งแต้มความสุขให้ชีวิตด้วยกล้องฟิล์มอินสแตนท์ที่ใช้ง่ายที่มาพร้อมลูกเล่นสนุก ๆ พร้อมให้คุณแชร์ความทรงจำดี ๆ กับเพื่อน ๆ…