“กล้องมีเดียมฟอร์แมทมิลเลอร์เลสขุมพลัง 51.4 MP รองรับการใช้งานระดับมืออาชีพ”
หลังจากที่ทางบริษัท Fujifilm ได้ตัดสินใจแบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่ด้วยการเปิดตัวกล้องดิจิตอลระดับมืออาชีพรุ่น GFX 50S ซึ่งเป็นกล้องแบบ Medium Format ในแบบ Mirroless ออกมาแทนที่จะเป็นกล้องดิจิตอลในตละกูล X-Series ที่ใช้เซ็นเซอร์แบบ Full Frame ที่หลายคนคาดการณ์ไว้ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เนื่องจากนี่เป็นตลาดของกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นช่างภาพมืออาชีพ อีกทั้งยังเป็นการเปิดไลน์ชิ้นเลนส์ Fujinon GF รุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อมารองรับฟอร์แมทกล้อง GFX อีกด้วย
ทำความรู้จักกล้อง Medium Format กันก่อน
อันดับแรกต้องมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของกล้องถ่ายภาพดิจิตอล ที่ถูกผลิตออกมาในปัจจุบันนั้นจะมีการแบ่งประเภทออกมาตามขนาดของเซ็นเซอร์ที่ถูกนำมาใช้ ซึ่งขนาดที่ได้รับความนิยมได้แก่ขนาด Micro 4/3 (17.3x13 มม. ) ขนาด APS-C (23.6x15.7 มม. ) และ ขนาด Full Frame ( 36x44 มม.) โดยที่เซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่มากไปกว่านี้จะถูกเรียกว่าขนาด Medium Format ซึ่งกล้องแบบ Medium Format ที่ใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่มากๆเช่นนี้มักจะถูกใช้งานในระดับมืออาชีพเพื่อการถ่ายภาพที่ต้องการคุณภาพของไฟล์ภาพสูงสุดและแน่นอนว่ากล้องส่วนใหญ่จะมีราคาค่าตัวที่สูงมากๆ ดังนั้นกล้อง Medium Format จึงถูกใช้งานอยู่ในสตูดิโอถ่ายภาพโฆษณาเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยที่เซ็นเซอร์ขนาด Medium Format ของ Fujifilm GFX 50S นั้นมีขนาด 43.8x32.9 มม. ซึ่งมีขนาดที่ใหญ่กว่าเซ็นเซอร์แบบ Full Frame ถึง 1.7 เท่า จึงให้ภาพที่มีความคมชัดสูงกว่า เก็บรายละเอียดได้มากกว่า มี Noise ที่ตำ่กว่า รวมถึงมีค่าไดนามิกเรนจ์ที่กว้างกว่าอีกด้วย
นอกจากนี้แล้วกล้อง Medium Format แบบดิจิตอลส่วนใหญ่ในท้องตลาดนั้นเป็นกล้องแบบ DSLR หรือเป็นกล้องที่มีกลไกกระจกสะท้อนภาพอยู่จึงทำให้ตัวกล้องมีขนาดใหญ่มีนำ้หนักมากทำให้เหมาะกับการใช้งานในสตูดิโอมากกว่าในขณะที่กล้อง Fujifilm GFX 50S เป็นกล้อง Medium Format แบบ Miorrless ที่ได้ประโยชน์จากการออกแบบที่ชาญฉลาดทำให้ตัวกล้องมีขนาดที่เล็กและมีนำ้หนักเบาทำให้มีความคล่องตัวในการจับถือใช้งานได้แทบไม่ต่างไปจากกล้อง DSLR แบบ Full Frame อีกท้ังตัวบอดี้ผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่แข็งแรงและมีนำ้หนักเบาทั้งยังได้รับการซีลป้องกันละอองน้ำและฝุ่นละออกมาเป็นอย่างดีทำให้สามารถนำกล้อง GFX 50S ออกไปใช้งานภาคสนามได้อย่างมั่นใจซึ่งช่วยเปิดมุมมองของการถ่ายภาพในรูปแบบต่างๆได้อย่างหลากหลายมากกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นงานแฟชั่นนอกสถานที่งานแลนด์สเคปหรือแม้กระทั่งการถ่ายภาพกีฬาเอ็กสตรีม
คุณสมบัติรองรับการใช้งานระดับมืออาชีพ
ด้วยพื้นฐานของกล้อง Fujifilm GFX 50S เป็นกล้อง Mirrorless ทำให้สามารถออกแบบบตัวกล้องให้มีขนาดที่เล็กแบนบางได้อย่างน่าทึ่งเมื่อเทียบกับกล้อง Medium Format ตามปกติที่ยังคงมีกลไกกระจกสะท้อนภาพอยู่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือขนาดมิติของบอดี้ที่ใกล้เคียงกับกล้อง DSLR แบบ Full Frame ระดับโปรเช่นเดียวกับยังมีน้ำหนักของตัวกล้องที่แทบไม่ต่างด้วยนำ้หนักขนาด 825 กรัม (เฉพาะบอดี้) หรือเมื่อรวมกับเลนส์ Fujinon GF 63 มม. ก็ยังมีน้ำหนักราว 1,230 กรัมซึ่งก็ยังถือว่าสูสีไม่ต่างไปจากกล้อง DSLR แบบ Full Frame พร้อมเลนส์เช่นกัน
รูปทรงของกล้อง FujiFilm GFX 50S ได้ถูกออกแบบมาในสไตล์กล้อง SLR ที่ดูสวยงามลงตัวตามแบบที่ทาง FujiFilm ถนัด โดยมีกริปมือจับที่อวบอ้วนขนาดใหญ่ ช่วยให้จับกล้องได้อย่างกระชับ สามารถใช้งานด้วยมือข้างเดียวได้อย่างถนัดมือ ทั้งยังให้ความสมดุลในขณะใช้งานได้เป็นอย่างดีจนบางครั้งลืมไปเลยว่ากำลังใช้งานกล้อง Medium Format อยู่ในมือ
สำหรับคนที่คุ้นเคยกับกล้อง FujiFilm แล้วจะพบว่าการจัดวางแป้นหมุนควบคุมและปุ่มกดตั้งค่าต่างๆของกล้อง FujiFilm GFX 50S นั้นดูแล้วเหมือนกับเป็นแฝดรุ่นพี่ที่ตัวใหญ่กว่าของกล้องรุ่น X-T2 ตัวเก่งของ FujiFilm เช่นกันทำให้ความรู้สึกในการปรับตั้งค่าและควบคุมที่คล่องแคล่วไม่สับสนแม้กับคนที่จับกล้องขึ้นมาใช้เป็นครั้งแรก
ด้านบนของกล้องมีแป้นหมุนปรับตั้งค่า ISO ทางด้านซ้ายของช่องมองภาพทรงสูง โดยมีแป้นหมุนปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ขนาดเท่าๆกัน ที่ทั้งคู่มาพร้อมกับปุ่มกดล็อคกันการหมุนปรับโดยไม่ได้ตั้งใจ ปุ่มกดชัตเตอร์ สวิสซ์เปิด/ปิด แบบคานโยกล้อมรอบอยู่ด้านบนของกริปมือจับ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ลงตัวง่ายต่อการกดใช้งานได้อย่างสะดวก ด้านข้างของปุ่มชัตเตอร์จะมีปุ่มกดเล็กๆใช้กดเพื่อปรับชดเชยค่าเปิดรับแสงที่ตามปกติแล้วบริเวณนี้จะเป็นที่อยู่ของแป้นหมุนเฉพาะกิจที่ใช้หมุนปรับค่าชดเชยแสงได้โดยตรงทันที แต่เนื่องจากต้องเสียสละพื้นที่ส่วนนี้ให้กับจอ LCD แสดงผลจอที่ 2 ที่ช่วยแสดงค่ากล้องที่สำคัญต่างๆให้เห็นได้ทันทีอย่างชัดเจนเพียงแค่ชำเลืองมอง
หน้าจอแสดงผล LCD ทัชสกีนแบบ Dual hinge ที่กางออกและปรับมุมได้สองทิศทางทั้งมุมก้ม(40องศา) และมุมเงย(90 องศา) และปรับเงยในแนวตั้งได้ (60 องศา) ให้ภาพที่คมชัดสบายตาด้วยหน้าจอขนาด 3.2 นิ้วความละเอียด 2.4 ล้านพิกเซลโดยที่สามารถแตะหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัส (AE area) ได้ซึ่งสะดวกกว่าการใช้แท่งจอยสติ๊กขนาดจิ๋วด้านหลังของกล้อง
กล้อง GFX 50S มาพร้อมกับช่องมองภาพ EVF ขนาดใหญ่ให้ภาพที่คมชัดสบายตาจากจอ OLED ขนาด 0.5 นิ้ว ความละเอียดสูง 3.69 ล้านพิกเซล ที่ครอบคลุมมุมมอง 100% พร้อมอัตราขยายภาพ 0.85 เท่า และสามารถปรับชดเชยค่าสายตาได้ครอบคลุม -4 ถึง +2 Dioptor โดยที่ช่องมองภาพของ GFX 50S นั้นสามารถถอดออกมาได้หรือเปลี่ยนเป็นช่องมองภาพ รุ่น EVF-TL1 (อุปกรณ์เสริม) ที่หมุนปรับองศาในการมองได้ทั้งในแนวตั้งฉากและหมุนหันได้เมื่อต้องถ่ายจากแนวตั้งด้านบน
เซ็นเซอร์ CMOS ความละเอียด 51 ล้านพิกเซลขนาด 43.8 มม. x 32.9 มม. ซึ่งเป็นหัวใจหลักของกล้อง FujiFilm GFX 50S นั้น เป็นแบบ RGB Bayer ที่มีการจัดวางเรียงฟิลเตอร์ด้านหน้าเซ็นเซอร์ในแบบดั้งเดิม ยังไม่ได้มีการใช้เซ็นเซอร์ X- Trans แบบที่ใช้ในกล้องตระกูล X-Series ตามปกติ ทั้งนี้น่าจะมาจากขนาดของเซ็นเซอร์ภาพทีมีขนาดใหญ่มาก ทำให้ง่ายต่อการออกแบบการจัดวางเลนส์รับแสงบนตัวเซ็นเซอร์ภาพให้มีประสิทธิภาพในการรับแสงได้สูงสุด อีกทั้งตัวเซ็นเซอร์ยังปราศจากฟิลเตอร์ Optical Low Pass ช่วยให้สามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ตัวเซ็นเซอร์จึงเก็บโทนสีได้กว้าง และมี Noise ที่ตำ่มาก ทำให้ได้ไฟล์ภาพที่มีคุณภาพสูงสุด รองรับไฟล์ RAW ทีมีความละเอีบดถึง 14 bit อีกทั้งจากการที่ตัวเซ็นเซอร์เป็นแบบ 4:3 ช่วยให้สามารถเลือกฟอร์แมทภาพได้หลากหลาย ( Multi aspect ) ตั้งแต่อัตราส่วน 4:3 (มาตราฐาน), 3:2, 1:1, 4:5, 6:7 และ 6:17 ช่วยเพิ่มความสะดวกและสร้างความยืดหยุ่นในการใช้งานได้เป็นอย่างดี และเมื่อผนวกเข้ากับประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของหน่วยประมวลผล X-Processor Pro อันเลื่องชื่อของ FujiFilm แล้ว ทำให้สามารถรองรับข้อมูลจำนวนมากจากเซ็นเซอร์ขนาด 51 ล้านพิกเซลได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ ส่งผลให้กล้องมีการตอบสนองต่อการโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำมาก
ในส่วนของระบบโฟกัสภาพของกล้อง GFX 50S เป็นแบบ Contrast-detection ที่มีความรวดเร็วฉับไวโดยมีจุดโฟกัสมากถึง 425 จุดกระจายทั่วทั้งภาพซึ่งสามารถปรับเลือกรูปแบบการโฟกัสได้ตามต้องการด้วยการปรับขนาดของกรอบสี่เหลี่ยมและเลื่อนปรับตั้งตำแหน่งได้ทันทีอย่างรวดเร็วทั้งด้วยการใช้แท่งจอยสติ๊กหรือใช้หน้าจอทัชสกรีนด้านหลังของกล้อง
กล้อง FujiFilm GFX 50S ยังคงใช้กลไลของระบบม่านชัตเตอร์แบบ Focal Plan ที่ติดตั้งอยู่ที่หน้าเซ็นเซอร์โดยยังมีทั้งชัตเตอร์แบบอิเล็คโทรนิคหรือการใช้ชัตเตอร์กลไกร่วมกับม่านชัตเตอร์แบบอีเล็คโทรนิคที่ช่วยให้มีค่าความไวชัตเตอร์สูงสุดที่ 1/4,000 วินาทีและ 1/16,000 วินาที (เมื่อใช้ชัตเตอร์อิเล็คโทรนิค) โดยถ่ายภาพต่อเนื่องความเร็วสูงได้สูงสุด 3 ภาพต่อวินาทีซึ่งถึงแม้อาจจะไม่เร็วมากในแบบกล้องขนาดเล็กแต่ก็สามารถถ่ายต่อเนื่องไปได้จนกว่าการ์ดจะเต็ม
ถึงแม้ว่ากล้อง GFX 50S จะเป็นกล้อง Medium Format แต่ก็ยังสามาถถ่ายวีดีโอคุณภาพสูงระดับ Full HD (1080/30p) ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกทั้งยังมีช่องต่อหูฟังและไมโครโฟนมาให้อย่างครบครันแน่นอนว่าในโหมดวีดีโอนี้อาจจะยังไม่ได้ถูกทำมาอย่างเต็มรูปแบบแต่คุณภาพของไฟล์วีดีโอจากเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมไม่แพ้คุณภาพไฟล์ภาพนิ่งด้วยเช่นกัน
โดยในครั้งนี้ทาง FujiFilm ได้ทุ่มพัฒนาเลนส์ Fujinon ในตระกูล “GF” ออกมาอย่างตั้งใจเพื่อรองรับเมาท์เลนส์ล่าสุดแบบ “G Mount” ที่มีระยะ Flange back ที่สั้นมาก (จากข้อได้เปรียบของระบบ Mirrorless) เพียง 26.7 มม. ซึ่งลดการเกิดขอบภาพดำ (Vignettning) และช่วยให้ได้ภาพถ่ายที่คมชัดสูงสุดโดยมีการเปิดตัวเลนส์ออกมาก่อนครั้งแรกพร้อมกับบอดี้กล้องทั้งหมด 3 ตัวได้แก่เลนส์มาตรฐาน Fujinon GF 63 mm. F2.8 R WR (เทียบเท่า 50 มม.ในฟอร์แมท 35 มม.) เลนส์ซูมมาตราฐาน Fujinon GF 32-64 mm. F4 R LM WR (เทียบเท่า 25-51 มม.) และเลนส์มาโคร GF 120 มม. F4 Macro R LM OIS WR (เทียบเท่า 95 มม.)
และจะมีเลนส์เพิ่มอีก 3 ตัว เปิดตัวตามมาอีกนั่นคือ เลนส์เทเลโฟโต้ GF 110 mm. F2 R LM WR (เทียบเท่า 87 มม.) เลนส์มุมกว้างพิเศษ GF 23 mm. F 4 R LM WR (เทียบเท่า18 มม.) และเลนส์มุมกว้าง GF 45 mm. F2.8 R WR (เทียบเท่า 35 มม.) โดยที่เลนส์ทั้งหมดมาพร้อมกับคุณสมบัติทนต่อฝุ่นผงและละอองน้ำจากการซีลเลนส์อย่างดี สามารถใช้งานภายใต้อุณหภูมิที่ต่ำได้ถึง -10 องศาเซลเซียล ซึ่งนับเป็นข่าวดีสำหรับช่างภาพทิวทัศน์และงานภาคสนามที่ต้องการอุปกรณ์ที่ไว้ใจได้
ผลงานภาพถ่ายจากการใช้งานจริง
เมื่อพูดถึงกล้องแบบ Medium Format แล้วส่วนใหญ่ทุกคนก็จะนึกภาพถึงการจัดแสงไฟในสตูดิโอเพื่อถ่ายภาพบุคคลหรือภาพสินค้าที่มีสภาพแสงที่สมบูรณ์แบบมีความคมชัดสูงสุดแต่ถ้าหากดูจากสเป็คและความตั้งใจในการออกแบบของทาง FujiFilm แล้วจะเห็นว่ากล้อง FujiFilm GFX 50S เป็นกล้อง Medium Format ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานภาคสนามได้เป็นอย่างดีไม่แพ้กันดังจะเห็นได้จากรูปทรงของกล้องที่ถอดแบบมาจากกล้อง X-T2 และโครงสร้างของกล้องแบบ Mirrorless ผลิตจากแมกนีเซียมที่แข็งแรงและมีนำ้หนักเบาอีกทั้งในส่วนบอดี้และเลนส์ในตระกูล GF ทุกตัวยังได้รับการซีลป้องกันละอองน้ำและฝุ่น (WR) รองรับการใช้งานภายใต้อุณหภูมิ -10 องศาเซลเซียสได้อย่างสบาย
การทดสอบคราวนี้ของเราจึงตั้งใจทำการทดสอบกล้อง FujiFilm GFX 50S ในแบบลงพื้นที่ภาคสนาม เพื่อให้เข้ากับคุณสมบัติของตัวกล้องที่มีความแข็งแรงและมีรูปทรงเหมาะมือจับถือใช้งานได้อย่างคล่องตัว ซึ่ง ทาง FujiFilm ประเทศไทย ได้จัดชุดกล้อง FujiFilm GFX 50S พร้อมชุดเลนส์ GF ทั้ง 3 ตัวมาให้เราทดสอบกันอย่างครบครัน
ซึ่งเราเริ่มทำความคุ้นเคยกับปุ่มกดและฟังก์ชั่นต่างๆของกล้อง FujiFilm GFX 50S ด้วยการถ่ายภาพในสตูดิโอด้วยกล้องแบบ Medium Format โดยเป็นการถ่ายภาพกิจกรรมออกกำลังกายรูปแบบใหม่นั่นคือโยคะริงที่อาศัยหลักการพื้นฐานและการจัดระเบียบร่างกายมาจากท่าของการฝึกโยคะแต่โยคะริงจะมีการใช้อุปกรณ์เสริมที่ถูกออกแบบมาให้ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับการฝึกฝนท่าต่างๆได้ง่ายและสนุกสนานมากยิ่งขึ้นซึ่งเราได้ใช้แสงสว่างหลักในการถ่ายภาพที่มาจากหน้าต่างและประตูกระจกขนาดใหญ่ของสตูดิโอที่หันไปทางทิศใต้ทำให้เราได้รับแสงแดดในช่วยบ่ายได้อย่างเต็มที่ยาวไปจนถึงช่วงเย็นของวัน
เราเลือกใช้เลนส์ Fujinon GF 63 mm. F2.8 R WR (เทียบเท่า 50 มม.ในฟอร์แมท 35 มม.) ซึ่งจัดเป็นเลนส์มาตรฐานมาใช้ก่อนเป็นตัวแรกเพื่อให้ได้มุมมองสมจริงเป็นธรรมชาติทำการถ่ายภาพในท่าเบสิคสบายๆไปก่อนเพื่อเป็นการวอร์มอัพนางแบบและช่วยสร้างความคุ้นเคยในการปรับตั้งและใช้งานกล้องในครั้งแรกให้กับเราได้เป็นอย่างดีโดยที่เพียงไม่นานก็คุ้นเคยกับกล้องได้อย่างรวดเร็วจากการที่เหล่าบรรดาเมนูและปุ่มกดต่างๆล้วนแต่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัวเข้าใจง่ายจากนั้นเราจึงเริ่มขยับเปลี่ยนมาใช้เลนส์ Fujinon GF 120 มม. F4 Macro R LM OIS WR ซึ่งเป็นเลนส์มาโครที่มีช่วงความยาวโฟกัสเทียบเท่า 95 มม.หรือจัดเลนส์เทเลโฟโต้ช่วงสั้นที่พอเหมาะมากในการเก็บภาพแบบเต็มตัวได้เต็มกรอบภาพและมีสัดส่วนของตัวแบบที่สวยงามสมจริงไม่บิดเบือนโดยแสงแดดช่วงบ่ายที่ส่องทางด้านหลังตัวแบบเป็นแสงหลักเริ่มที่จะแรงมากขึ้นจนมีค่าแสงระหว่างฉากหลังและด้านหน้าของตัวแบบที่แตกต่างกันค่อนข้างมากซึ่งถึงแม้จะใช้แผ่นสะท้อนแสงช่วยเพิ่มแสงและลดเงาดำทางด้านหน้าของตัวแบบแล้วเราก็ยังต้องทำการชดเชยค่าแสงให้สว่างมากขึ้นถึงเกือบสามสต็อปครึ่งแต่ต้องยอมรับว่ากล้อง FujiFilm GFX 50S ผ่านฉลุยสำหรับการรับมือกับช่วงโทนแสงที่มีช่วงต่างมากๆได้อย่างน่าประทับใจภาพถ่ายที่ได้เต็มไปด้วยรายละเอียดที่ครบถ้วนสวยงามทั้งในส่วนเงามืดและไฮไลท์ซึ่งต้องยอมรับในประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของเซ็นเซอร์ภาพและหน่วยประมวลผลภาพที่ชาญฉลาดของกล้องจริงๆ
กล้อง FujiFilm GFX 50S แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของระบบวัดแสงที่แม่นยำ ที่แม้ว่าตัวแบบในภาพจะมีการย้อนแสงอย่างเต็มที่จากแสงธรรมชาติจากหน้าต่างทางด้านหลัง แต่ตัวแบบในภาพก็ยังคงมีค่าเปิดรับแสงที่สวยงามดูดีไม่มืดดำในขณะที่มีฉากหลังที่สว่างจ้าได้อย่างงดงาม
เซ็นเซอร์ CMOS ความละเอียด 51 ล้านพิกเซลแบบ RGB Bayer ที่ปราศจากฟิลเตอร์ Optical Low Pass แสดงประสิทธิภาพในเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยภาพถ่ายที่มีการไล่โทนแสงในส่วนสว่างและเงามืดอย่างได้งดงาม แม้จะมีค่าแสงที่ต่างกันมากอย่างสุดขั้วดังเช่นในภาพ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงช่วงไดนามิกเรนจ์ที่กว้างมากๆ
แน่นอนว่าจุดเด่นของกล้อง FujiFilm GFX 50S ที่ได้สร้างความประทับใจให้กับเราตั้งแต่แรกก็คือขนาดและนำ้หนักของชุดกล้องทั้งหมดที่สามารถนำลงไปบรรจุแทนที่ชุดกล้อง DSLR เข้าไปในกระเป๋ากล้องแบบฮาร์ดเคสตัวเก่งของเราได้อย่างพอดี โดยที่เราสามารถบรรจุบอดี้กล้อง FujiFilm GFX 50S ติดเลนส์ GF 63 mm. F2.0 R WR เลนส์ GF 32-64 mm. F4 R LM WR และ เลนส์มาโคร GF 120mm. F4 Macro R LM OIS WR เอาไว้ได้ในกระเป๋าใบเดียวกัน ทำให้ง่ายต่อการทำงานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังมีนำ้หนักรวมที่ใกล้เคียงกับชุดกล้องและเลนส์แบบ DSLR จนแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างของกล้องที่บรรจุอยู่กระเป๋า
จากนั้นเราได้นำกล้อง FujiFilm GFX 50S มาทดลองเก็บภาพนอกสถานที่กับงาน Mini Stuff 2 ซึ่งเป็นกิจกรรมประจำปีของชมรม Mini Family Club Thailand ซึ่งเป็นงานเหล่าบรรดาสมาชิกของชมรมจะนำรถ Mini Classic สีสดใสน่ารักและของสะสมมาโชว์กันในงานโดยกิจกรรมจะเริ่มจัดในช่วงเย็นรวมถึงมีการแสดงดนตรีในช่วงค่ำๆช่วยให้เราได้มีโอกาสทดสอบในเรื่อง Noise และค่าความไวแสงสูงๆของกล้องได้เป็นอย่างดีซึ่งกล้อง FujiFilm GFX 50S ก็ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการรับมือกับการเกิด Noise ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นความได้เปรียบจากเซ็นเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ส่งผลให้ภาพถ่ายที่ใช้ค่าความไวแสงในช่วง ISO100-800 นั้นไม่มี Noise ปรากฎขึ้นให้เห็นเลยในภาพโดย Noise จะเริ่มปรากฎให้เห็นที่ค่า ISO 1600 ไปจนถึงช่วง ISO 6400 เมื่อขยับค่า ISO ขึ้นไปอีกที่ช่วง ISO 12800-25600 แล้วจะเกิด Noise ขึ้นในภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดส่วนที่ค่าสูงสุดขนาด ISO 51200 และ ISO 102400 นั้นเก็บไว้ในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจะเหมาะกว่า
เซ็นเซอร์ภาพแบบ Medium Format มีข้อได้เปรียบมากกว่าในเรื่องของช่วงความชัดลึกที่ตื้นมากกว่าเซ็นเซอร์ Full Frame และ APS- C ช่วยให้ภาพมีมิติสวยงาม แม้จะใช้รูรับแสงที่แคบภาพก็ยังมีฉากหลังที่เบลอได้มากกว่า
ด้วยขนาดและนำ้หนักที่เบาและจับถือใช้งานได้อย่างคล่องมือด้วยมือเพียงข้างเดียว ทำให้สามารถทำการถ่ายภาพต่อเนื่องได้เป็นเวลานานได้อย่างสบายๆ เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานที่เพียงพอกับการถ่ายภาพได้สบายๆกว่า 300 รูป อีกทั้งยังสามารถชาร์จผ่านเพาเวอร์แบงค์ได้โดยตรงทำให้หมดห่วงไปได้เลย
คุณภาพอันยอดเยี่ยมของเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ให้ภาพถ่ายที่คมชัดและมีรายละเอียดให้เห็นอย่างชัดเจน ภาพมีความคมชัดแบบสุดยอดตั้งแต่กลางภาพไปถึงสุดขอบภาพ อีกทั้งยังแทบไม่มี Noise เกิดขึ้นให้เห็นแม้จะใช้ความไวแสงสูงขนาด ISO 1600
และมาถึงการทดสอบภาคสนามเพื่อให้สมกับที่ทาง FujiFilm ได้ออกแบบให้กล้อง FujiFilm GFX 50S สามารถรองรับการใช้งานในแบบมืออาชีพได้อย่างเต็มที่ ด้วยโครงสร้างแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่แข็งแรงและมีนำ้หนักเบา พร้อมการซีลป้องกันละอองน้ำและฝุ่นละอองมาอย่างจัดเต็มทั้งที่ตัวบอดี้กล้องและในเลนส์ ดังนั้นเราจึงมุ่งหน้าไปยังบึง Thai Wake Park ลำลูกกา คลอง 5 ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับเล่นกีฬาเวคบอร์ดอันดับต้นๆในประเทศไทย และมีมาตรฐานระดับโลกรองรับการแข่งขันเวคบอร์ดรายการใหญ่ๆระดับโลกมาแล้วมากมาย ทำให้ มีโอกาสกระทบไหล่กับเหล่าโปรระดับโลกมากมายที่แวะเวียนกันมาฝึกซ้อมและโชว์ฝีมือให้เห็นกันตลอดทั้งปี
โดยในครั้งนี้ตรงกับที่ทางบึงมีรายการแข่งขันประจำปีในรายการ Railjam 2017 ซึ่งนี่นับเป็นครั้งแรกที่นำเอากล้องแบบ Medium Format มาใช้ถ่ายภาพกีฬาแนวเอ็กสตรีมซึ่งทำให้เราพบว่ากล้อง FujiFilm GFX 50S มีความได้เปรียบจากการมีช่องมองภาพ EVF ที่มีขนาดใหญ่และคมชัดสูงสุดจากค่าความละเอียดที่สูงถึง 3.69 ล้านจุดตัวช่องมองภาพยังสามารถถอดแยกออกมาได้ซึ่งช่วยลดขนาดและน้ำหนักของตัวกล้องลงได้อีกเล็กน้อยอีกทั้งยังมีออปชั่นช่องมองภาพแบบปรับองศาการมองได้รุ่น EVF-TL1 (อุปกรณ์เสริม) ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการถ่ายภาพด้วยมุมมองที่มีเอกลักษณ์แตกต่างไม่ซำ้ใครซึ่งเป็นออปชั่นเสริมที่จัดว่ามีประโยชน์มากในการถ่ายภาพนอกสถานที่ทำให้ง่ายในการติดตามแอ็คชั่นที่เกิดขึ้นตลอดเวลาได้อย่างครอบคลุมต่อเนื่องก่อนที่จะกดชัตเตอร์ ช่วยชดเชยกับข้อจำกัดของความเร็วในการบันทึกภาพต่อเนื่องขนาด 3 เฟรมต่อวินาที (fps) ที่จัดว่าน้อยมากสำหรับการเก็บภาพแอ็คชั่นความเร็วสูงแต่ด้วยความเร็วชัตเตอร์สูงสุดขนาด 1/4,000 วินาที (จากชัตเตอร์ม่านในตัวกล้องแบบกลไก) และยังสามารถขยับเพิ่มขึ้นได้ถึง 1/16,000 วินาที (ด้วยม่านชัตเตอร์แบบอิเล็คโทรนิค) และผนวกกับเทคนิคในการถ่ายภาพอีกเล็กน้อยช่วยเพียงแค่นี้ก็ช่วยให้สามารถเก็บภาพแอ็คชั่นความเร็วสูงด้วยกล้อง FujiFilm GFX 50S ได้อย่างสบาย
ต้องยอมรับว่ากล้อง FujiFilm GFX 50S แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการใช้งานภาคสนามได้อย่างน่าประทับใจจากความคล่องตัวในการจับถือใช้งานได้อย่างถนัดมือจากกริปมือจับขนาดใหญ่ด้านหน้ารับกับที่รองนิ้วทรงสูงบริเวณด้านหลังกล้องแทบไม่ต่างไปจากกล้องแบบ DSLR รุ่นโปรในขณะที่รูปทรงของกล้อง FujiFilm GFX 505 จะออกไปในทางทรงสี่เหลี่ยมทรงกล่องมากกว่าจะเป็นทรงแบนแคบทรงสูงแบบกล้อง DSLR รุ่นโปรเพียงแต่จะสังเกตเห็นว่าตัวเลนส์จะมีความอวบอ้วนและมีขนาดที่ใหญ่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดแต่ในขณะที่นำ้หนักรวมของกล้องและเลนส์นั้นยังสามารถจับถือได้อย่างถนัดมือแม้ด้วยมือเพียงข้างเดียวได้อย่างสบายโดยเฉพาะกับช่างภาพที่คุ้นเคยกับชุดกล้องและเลนส์ภาคสนามที่มีขนาดและนำ้หนักที่ไม่ธรรมดาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วจนแทบจะลืมไปเลยว่ากำลังถือกล้อง Medium Format ใช้งานอยู่ในมือ
เลนส์ Fujinon ถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจเพื่อรองรับการใช้งานระดับมืออาชีพได้อย่างมั่นใจ ควบคู่ไปกับคุณภาพของชิ้นเลนส์ที่มีการถ่ายทอดรายละเอียดของภาพอันยอดเยี่ยม สามารถรองรับไฟล์ภาพระดับ 100 ล้านพิกเซลขึ้นไปได้อย่างสบาย
ช่องมองภาพ EVF เป็นอีกจุดหนึ่งที่ช่วยให้การใช้งานกล้อง FujiFilm GFX 50S ในภาคสนามได้อย่างยอดเยี่ยมที่ถึงแม้จะมีสภาพแสงช่วงเที่ยงวันที่สว่างจ้า ด้วยขนาดที่ใหญ่เต็มตาคมชัดด้วยความละเอียดถึง 3.69 ล้านจุด และสามารถถอดแยกออกมาได้ซึ่งช่วยลดขนาดและน้ำหนักของตัวกล้องลงได้อีกเล็กน้อย อีกทั้งยังมีออปชั่นช่องมองภาพแบบปรับองศาการมองได้ รุ่น EVF-TL1 (อุปกรณ์เสริม)
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องขนาด 3 เฟรมต่อวินาที (fps) อาจจะน้อยไปและไม่ค่อยเหมาะสำหรับการเก็บภาพแอ็คชั่นความเร็วสูง แต่ด้วยความเร็วชัตเตอร์สูงสุดขนาด 1/4,000 วินาที จากชัตเตอร์ม่านในตัวกล้องแบบกลไกและยังสามารถขยับเพิ่มขึ้นได้ถึง 1/16,000 วินาที ด้วยม่านชัตเตอร์แบบอิเล็คโทรนิค ช่วยให้สามารถเก็บภาพแอ็คชั่นความเร็วสูงได้อย่างสบาย
กล้อง FujiFilm GFX 50S ใช้ระบบโฟกัสอัติโนมัติแบบตรวจจับคอนทราส (Contrast-detect AF System) ที่มีการตอบสนองได้อย่างรวดเร็วแม่นยำเมื่อถ่ายภาพในสตูดิโอแต่ถ้าหากนำไปเปรียบเทียบกับมาตราฐานความเร็วของกล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ๆในปัจจุบันนั้นอาจจะมีการตอบสนองที่ยังไม่ทันใจเทียบเท่าแต่ในสภาพแสงที่สว่างมากๆกล้อง FujiFilm GFX 50S มีการโฟกัสภาพที่รวดเร็วเพียงพอแต่จะเริ่มมีอาการหน่วงอยู่ให้เห็นบ้างในบางครั้งเมื่อทำการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยมากๆซึ่งระบบโฟกัสแบบตรวจจับคอนทราสนั้นไม่ค่อยจะถูกกับสภาพแสงที่น้อยหรือกับภาพที่มีคอนทราส์ต่ำมากๆแต่ในขณะที่ตัวกล้องกลับมีความเร็วในการประมวลผลภาพที่รวดเร็วฉับไวถึงแม้จะมีไฟล์ภาพขนาดใหญ่จากเซ็นเซอร์ 51.4 ล้านพิกเซลหน่วยประมวลผล X Processor Pro ก็แสดงประสิทธิภาพให้เห็นได้อย่างยอดเยี่ยมแม่นยำมากโดยถ้าหากกล้องได้รับการอัพเดทซอฟแวร์ล่าสุดแล้วก็น่าที่จะช่วยให้ระบบโฟกัสอติโนมัติทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้นได้อีก
บอดี้แมกนีเซียมอัลลอยด์ที่แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบาของกล้อง FujiFilm GFX 50S ในความรู้สึกที่แน่นหนาถนัดมือ อีกทั้งยังได้รับการซีลป้องกันละอองน้ำและฝุ่นผงมาอย่างดี (WR ) ทั้งตัวบอดี้และเลนส์ในตระกูล GF ทุกตัว เพิ่มความมั่นใจในการใช้งานกล้องภายใต้สภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบันนอกสตูดิโอถ่ายภาพได้อย่างมั่นใจ แทบไม่ต่างไปจากกล้อง DSLR
ภาพถ่ายที่ได้จากเซ็นเซอร์ Medium Format จะมีความเป็นเอกลักษณ์จากภาพถ่ายที่มีช่วงความชัดลึกที่ตื้นมากกว่าเมื่อเทียบกับภาพที่ได้จากเซ็นเซอร์แบบ Full Frame ทำให้ง่ายต่อการสร้างสรรค์ภาพบุคคลได้อย่างสวยงาม
บทสรุป
กล้อง FujiFilm GFX 50S จัดเป็นกล้องที่เปิดตัวระบบกล้อง Medium Format ของทาง FujiFilm ได้อย่างยอดเยี่ยมน่าชื่นชมด้วยคุณภาพไฟล์ที่ให้รายละเอียดภาพในระดับสุดยอด ภาพใสเคลียร์ปราศจาก Noise และมีค่าไดนามิกเรนจ์ที่มีช่วงกว้างมาก แน่นอนว่ากล้อง FujiFilm GFX 50S ยังมีพื้นที่อยู่หลายจุดที่สามารถอัพเกรดเพิ่มขึ้นเพื่อให้มีการใช้งานที่เต็มประสิทธิภาพขึ้นไปอีก เพื่อให้กลายเป็นกล้องดิจิตอล Medium Format ที่มีความสมบูรณ์แบบได้อีกทั้งในส่วนของความเร็วในการบันทึกภาพและในส่วนของระบบโฟกัสภาพที่มีความซับซ้อนมากขึ้นจากเดิม แน่นอนว่าจากประสบการณ์ที่ช่ำชองของบริษัท FujiFilm ในการผลิตกล้องเล็กคุณภาพสูงระดับมืออาชีพในตระกูล X-Series ที่เป็นต้นแบบของกล้องในตระกูล GFX มาตั้งแต่ต้น จึงไม่น่าแปลกใจที่อนาคตกล้อง FujiFilm GFX 50S นั้นจะมีหนทางที่สดใสจากคุณภาพไฟล์ภาพอันยอดเยี่ยมของเซ็นเซอร์ Medium Format ขนาดใหญ่ ในขณะที่มีขนาดและนำ้หนักของตัวกล้องที่มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก รองรับการใช้งานถ่ายภาพได้หลากหลาย และที่สำคัญก็คือมีราคาค่าตัวไม่แพงเมื่อเทียบกับกล้องในกลุ่ม Medium Format ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
- Previous articleแคนนอนจับมือเวิลด์คาเมร่า เปิด “แคนนอน อิมเมจ สแควร์ บาย เวิลด์คาเมร่า” ศูนย์รวมเทคโนโลยีกล้องดิจิทัลและแหล่งเรียนรู้ด้านการถ่ายภาพแห่งใหม่ย่านปิ่นเกล้า
- Next articleแคนนอนฉลองยอดการผลิตกล้องตระกูล EOS 90 ล้านกล้อง และเลนส์ EF 130 ล้านชิ้น
You may be interested
ฟูจิฟิล์ม เปิดแคมเปญ “Make More Magic” ถ่ายทอดความรู้สึกยิ่งใหญ่ที่ไฟล์ดิจิทัลให้ไม่ได้ ส่งสื่อโฆษณา TVC และ OOH แสนอบอุ่นใจ ตอกย้ำการสร้าง “MAGIC MOMENT” ด้วยฟิล์มอินสแตกซ์ นำเสนอปรินเตอร์ฟิล์มอินสแตนท์ 3 รุ่น มาพร้อมคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ แต่งแต้มความสุขสนุกสนาน ให้ทุกความทรงจำพิเศษกว่าที่เคย!
skatewaylife - December 30, 2023บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดแคมเปญโฆษณาชุดพิเศษภายใต้ แท็กไลน์ “Make More Magic” ครอบคลุมทั้งสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ (TVC) และสื่อโฆษณานอกบ้าน (Out of Home - OOH) ถ่ายทอดเรื่องราวการเก็บทุกช่วงเวลาดี ๆ ในชีวิตด้วยภาพปรินต์อินสแตกซ์จากปรินเตอร์ฟิล์มของฟูจิฟิล์มที่เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้ง่าย…
ไทย ปลุกกระแส ปาร์กัวร์ ผ่านโปรเจ็ค Run The Ship โดย Red Bull และ Team Farang
skatewaylife - May 25, 2023Red Bull และ Team Farang นำเสนอมิติใหม่วงการปาร์กัวร์ไทย กับโปรเจ็ค Run The Ship ที่เกิดขึ้นบนเรือที่ถูกทิ้งร้างในถิ่นทุรกันดารอันกว้างใหญ่ของไทย นับตั้งแต่โปรเจ็คนี้ประสบความสำเร็จ Team Farang ก็ได้รับการชื่นชมในหมู่คนในท้องถิ่นว่ามีความคิดสร้างสรรค์และมีวิสัยทัศน์ [siteorigin_widget class="SiteOrigin_Widget_Image_Widget"][/siteorigin_widget][siteorigin_widget class="SiteOrigin_Widget_Image_Widget"][/siteorigin_widget] Team Farang…
ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย เปิดตัว INSTAX mini 12 กล้องฟิล์มอินสแตนท์รุ่นใหม่ ชูดีไซน์สวยโดดโด่นในโทนพาสเทลสดใส
skatewaylife - March 7, 2023บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวกล้องฟิล์มอินสแตนท์รุ่นใหม่ล่าสุด “INSTAX mini 12” ภายใต้สโลแกน “Fill your world with joy” ชวนคนรุ่นใหม่ที่รักการถ่ายภาพมาร่วมแต่งแต้มความสุขให้ชีวิตด้วยกล้องฟิล์มอินสแตนท์ที่ใช้ง่ายที่มาพร้อมลูกเล่นสนุก ๆ พร้อมให้คุณแชร์ความทรงจำดี ๆ กับเพื่อน ๆ…