Sony FE 400 mm F2.8 GM OSS รีวิวภาคสนาม

เลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS เป็นเลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ไวแสงสูงระดับ F2.8 ตัวแรกของตระกูล G Master ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของช่างภาพมืออาชีพกีฬาและสัตว์ป่าโดยเฉพาะ ด้วยมาตรฐานในการผลิตเลนส์เกรดโปรที่เน้นคุณภาพด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในการผลิตเลนส์มาใช้กับเลนส์ในตระกูล GM ทุกรุ่น โดยนับตั้งแต่เลนส์ FE 400 mm. F2.8 OM OSS ได้ถูกเปิดตัวออกมาก็ถูกนำมาตระเวนโชว์ตัวให้ทดสอบหมุนเวียนไปตามประเทศต่างๆในช่วงระยะเวลาสั้นๆเพียงประเทศละไม่ถึง 2 อาทิตย์

โดยทาง Sony ประเทศไทยได้จัดคิวทดสอบใช้งานเลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS ให้กับช่างภาพมือโปรและมือทดสอบชาวไทยกันแบบเต็มที่ในแบบภาคสนามกับกีฬาเวคบอร์ด ( Wakeboard ) ซึ่งเป็นกีฬาเอ็กสตรีมทางน้ำที่มีลีลาการเล่นที่สวยงามเร้าใจเหมาะกับการทดสอบเลนส์ได้อย่างเต็มขีดความสามารถ โดยเลือกบึง Thai Wake Park ลำลูกกาคลอง 6 ซึ่งเป็นบึงเคเบิ้ลสำหรับการเล่นเวคบอร์ดระดับมาตรฐานโลกและได้จัดเตรียมไรเดอร์มืออาชีพไว้เพื่อให้ทุกคนได้ทำการทดสอบประสิทธิภาพเลนส์กันอย่างเต็มที่

การเติมเต็มสมาชิกเลนส์ในตระกูล G Master ด้วยเลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS ซึ่งเป็นเลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ไวแสงสูงสำหรับช่างภาพมืออาชีพเข้ามาเสริมทัพนั้นไม่เพียงแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการผลิตเลนส์ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงของ Sony แต่ยังตอกย้ำให้เห็นถึงความตั้งใจในการพัฒนากล้องและเลนส์เพื่อรองรับการใช้งานในระดับมืออาชีพอย่างยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย แน่นอนว่าเลนส์ทุกตัวของตระกูล G Master จะเน้นคุณสมบัติในเรื่องของความคมชัดแบบสุดขอบ (High-resolution) และโบเก้ในภาพที่สวยงามจากจำนวนไดอะแฟรมที่มีมากถึง 11 ใบ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเลนส์ G Master ทุกรุ่น 

เลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS  เข้าคู่กันได้เป็นอย่างดีกับบอดี้กล้อง Sony รุ่น A9 ซึ่งเป็นกล้องรุ่นท็อปสำหรับการถ่ายภาพความเร็วสูงและมีฟังชั่นที่สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์รุ่นนี้ได้ แต่ต้องทำการอัพเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่น 3.01 ก่อน ( ส่วนรุ่นอื่นต้องรออีกซักพัก ) 

ทางบริษัทโซนี่ไทยได้จัดเตรียมบอดี้กล้อง Sony A9 จำนวนกว่า 10 ตัวมาให้ใช้งานคู่กับเลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS ที่มีมาให้ทดลองใช้งานถึง 2 ตัว พร้อมกับยังจัดเตรียมเลนส์ซุปเปอร์ซูม Sony FE 100-400 F4.5-5.6 GM OSS มาใช้ในระหว่างรอคิวทดสอบเลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS ถึง 12 ตัว ในระหว่างรออีกด้วย  

เลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS มีขนาดและมิติมาตรฐานแบบเดียวกับเลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ไวแสงสูงขนาด 400 mm. F2.8 ที่มีขายอยู่ในท้องตลาดยี่ห้ออื่นๆ เช่นกัน แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับเราก็คือน้ำหนักของเลนส์ที่เบามาก ซึ่งทาง Sony เคลมว่านี่เป็นเลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ ขนาด 400 มม F 2.8 ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในโลกด้วยน้ำหนักเลนส์ไม่ถึง 3 กิโลกรัม ( 2,895 กรัม) ซึ่งเบากว่าเลนส์ในคลาสเดียวกันยี่ห้ออื่นๆถึงราวๆ 1 กิโลกรัม และยังเข้ากับบอดี้ของกล้อง Sony รุ่นโปรอย่าง A9 ได้อย่างสวยงามลงตัว โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับแบตเตอรี่กริปที่ช่วยเพิ่มความกระชับมือในขณะใช้งานได้เป็นอย่างดี 

ซึ่งเมื่อยกกล้องและเลนส์ขึ้นมาใช้งานจะพบว่าน้ำหนักที่หายไปราวๆ 1 กิโลกรัมนั้นสร้างความแตกต่างให้เห็นอย่างชัดเจน เพราะตามปกติแล้วเมื่อใช้เลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ขนาด 400 mm F 2.8 รุ่นอื่นๆ ร่วมกับบอดี้กล้องโปรแล้ว ต้องเรียกหาโมโนพอดมาใช้แทบจะในทันทีที่เริ่มใช้งาน แต่ในขณะที่เราสามารถทำการถือกล้อง A9 พร้อมกริปแบตเตอรี่และเลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS ได้อย่างสบายๆ จากการเลือกใช้แม็กนีเซียม อัลลอยด์ ที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบา มาทำกระบอกเลนส์ และยังมีการออกแบบโครงสร้างของชุดของชิ้นเลนส์ภายในกระบอกเลนส์ ( Optical design ) จากการลดจำนวนชิ้นเลนส์ในบริเวณส่วนหน้าลงและทำการย้ายชุดชิ้นเลนส์ภายในให้มาอยู่บริเวณส่วนกลางของกระบอกเลนส์ใกล้กับตัวบอดี้ ช่วยให้จุดศูนย์ถ่วงของน้ำหนักโดยรวมย้ายมาทางด้านซ้ายของเลนส์ (Weighted Center) ซึ่งตกลงมาที่บริเวณขาคอลลาร์ที่ใช้ยึดกับขาตั้งของกล้องได้อย่างพอดี ทำให้เมื่อหยิบเลนส์และบอดี้กล้องขึ้นมาจึงให้ความรู้สึกสมดุลในการจับถือได้อย่างดีไม่ถ่วงไปทางด้านหน้าตามปกติเหมือนกับเลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ไวแสงสูง F2.8 ทั่วๆไป ซึ่งจะสังเกตได้ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อทำการแพนกล้องเพื่อเก็บภาพแอคชั่น และยังช่วยให้สามารถใช้เลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS ร่วมกับบอดี้กล้องที่มีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบาอย่างในรุ่น A6500 ได้อย่างดีด้วยเช่นกัน

ตัวเลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS ได้รับการซีลให้สามารถกันละอองน้ำกับฝุ่นมาอย่างดี ช่วยให้สามารถใช้งานได้อย่างมั่นใจและมีความแข็งแรงทนทานรองรับการกับงานภาคสนามแบบมืออาชีพที่ต้องทำการถ่ายภาพภายใต้ความกดดันหรือในสภาพอากาศหรือภูมิประเทศไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทางSony ได้ตั้งใจออกแบบโครงสร้างภายในเลนส์มาอย่างตั้งใจ ซึ่งประกอบไปด้วยชิ้นเลนส์ 23 ชิ้น (รวมฟิลเตอร์ 1 ชิ้นแบบ Slot-in ขนาด 40.5 mm. ) แบ่งเป็น 17 กลุ่ม โดยมีชิ้นเลนส์พิเศษแบบฟลูโอไรด์ ( Fluorite lens ) ถึง 3 ชิ้น ช่วยลดการเกิดความคลาดสี (CA) ทำให้ได้ภาพที่มีความคมชัดตั้งแต่กลางภาพถึงขอบภาพและชิ้นเลนส์แบบ ED อีก 1 ชิ้น ผสมผสานกับการเคลือบผิวเลนส์แบบ Nano AR (Nano AR Coating) ที่ช่วยลดการเกิดแสงสะท้อนซึ่งจะก่อให้เกิดแสงแฟลร์ (Flare) และภาพหลอน (Ghosting) ที่ช่วยเพิ่มความใสเฟิร์สและคอนทราสให้กับภาพถ่ายได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงยังมีการโค๊ทเลนส์ชิ้นหน้าด้วยฟลูโอไรท์ ช่วยป้องกันผิวเลนส์ชิ้นหน้าที่มีขนาดใหญ่ให้สะอาดและง่ายต่อเช็ดทำความสะอาดจากรอยนิ้วมือหรือคราบสกปรกต่างๆ

วงแหวนปรับโฟกัสมีขนาดใหญ่ง่ายต่อการหมุนปรับโฟกัสได้อย่างนุ่มนวลวางคู่อยู่กับวงแหวนฟังก์ชันที่จะถูกใช้งานร่วมกับสวิตซ์พรีเซ็ทและฟังก์ชัน โดยมีปุ่มล็อคโฟกัสที่อยู่บนกระบอกเลนส์ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการกด บนกระบอกเลนส์จะประกอบไปด้วยชุดสวิตช์เพื่อใช้ปรับตั้งการใช้งานเลนส์เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด เริ่มจากสวิตช์เลือกโฟกัสแบบอัตโนมัติ (AF) หรือ แมนวล (MF) ถัดมาเป็นสวิตช์โหมดปรับตั้งโฟกัส Manual ได้ทันทีตลอดเวลา (Full Time DMF ) ที่ทำให้สามารถใช้มือหมุนปรับโฟกัสเองได้ทันที แม้จะอยู่ในโหมด AF (ON เปิดใช้งาน /OFF ปิดการใช้งาน) ต่ำลงมาเป็นสวิตช์จำกัดระยะโฟกัสวัตถุ (Focus Limited Switch) ระหว่างระยะปกติ (Full Length) และจำกัดระยะ (ระหว่าง 7 เมตร-อินฟินิตี้) ด้านล่างเป็นสวิตช์ Function ที่จะทำงานร่วมกับวงแหวน Function บนตัวเลนส์  

โดยสวิทซ์ Function จะใช้ทำการ "Preset" หรือ ให้ช่างภาพได้ทำการเลือกจุดโฟกัสที่ต้องการไว้ล่วงหน้า (Preset Focus) เอาไว้ก่อนเพื่อรอตัวแบบจะวิ่งเข้ามาในกรอบภาพ แต่ในขณะที่รอก็สามารถทำการโฟกัสไปที่จุดอื่นๆได้ เมื่อต้องการใช้เลนส์กลับมาโฟกัสที่จุดเดิมที่ตั้งไว้ก็เพียงบิดวงแหวนฟังก์ชั่นบนกระบอกเลนส์ ตัวเลนส์ก็จปรับโฟกัสไปที่จุดโฟกัสที่ได้ถูกเมมโมรี่ไว้ทันทีอย่างฉับไว การตั้งค่าก็ไม่ยากเริ่มจากเลือกจุดโฟกัสไปยังจุดที่ต้องการจากนั้นกดปุ่ม "SET" และรอให้มีเสียงปี๊บคอนเฟิร์มค่าดังขึ้น ซึ่งฟังก์ชันนี้ช่วยเพิ่มความสะดวกให้ช่างภาพได้เป็นอย่างดี เหมาะมากสำหรับการถ่ายภาพนกที่บินกลับไปกลับมาระหว่างรังหรือตัวแบบที่วนกลับมาที่จุดมาร์คจุดเดิม อย่างเวคบอร์ด หรือรถแข่งได้เป็นอย่างดี 

นอกจากนี้ยังใช้ตั้งค่าวงแหวนฟังก์ชั่นให้กลายมาเป็นสวิตช์เพื่อเลือกฟังก์ชั่นใช้งานพิเศษของกล้องได้อีก 2 ฟังก์ชั่นได้แก่ฟังก์ชัน Power Focus เพื่อให้เลนส์มีการทำงานเหมือนกับระบบการซูมไฟฟ้าหรือเพาเวอร์ซูมช่วยให้มีการโฟกัสภาพได้ทันทีให้โดยอัตโนมัติจากการหมุนบิดวงแหวนฟังก์ชันบนเลนส์ซึ่งมีประโยชน์และเหมาะกับการบันทึกวิดีโอที่ต้องการชิฟท์จุดโฟกัสจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งได้อย่างนุ่มนวลและฟังก์ชั่นที่สองก็คือใช้ปรับตั้งค่าในการบันทึกภาพระหว่างแบบฟลูเฟรม (Full Frame) และแบบ APS-C (Crop Mode) ได้ทันทีเพียงแค่บิดวงแหวนฟังก์ชันบนกระบอกเลนส์ (ซึ่งตอนนี้ตั้งค่าใช้งานได้เฉพาะในกล้องรุ่น A9 ที่ได้รับการอัพ Firmware Version 3.0 1 เสียก่อนถึงจะมีหน้าเมนูสำหรับปรับตั้งแสดงให้เห็น ) ซึ่งโหมดครอปจะมีประโยชน์มากเมื่อต้องการค่ากำลังขยายของเลนส์มากขึ้นจากการใช้โหมดครอป APS-C ที่จะเพิ่มระยะโฟกัส  1.5 X  ได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเข้าไปตั้งค่าในเมนูกล้อง  

ปุ่มเปิด/ปิดโหมดกันสั่นแบบออปติคอล ( Optical SteadyShot ) ที่ตัวเลนส์วางคู่อยู่กับปุ่มเลือกโหมดกันสั่นที่มีให้เลือกใช้สามรูปแบบได้แก่แบบที่ 1 มาตรฐานสำหรับใช้งานทั่วไปแบบที่ 2 สำหรับการถ่ายภาพแพนและแบบที่ 3 สำหรับตัวแบบเคลื่อนไหวที่ไม่เป็นทิศทางและปุ่มล่างสุดสำหรับปิดเสียงบี๊บของเลนส์ตอนที่ทำการตั้งค่ากดปุ่ม SET 

เลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS มีการโฟกัสภาพได้อย่างรวดเร็วและเงียบมากขึ้นจากการใช้มอเตอร์ใหม่ล่าสุดแบบ XD Linear Motor ร่วมกับระบบโฟกัสภายในกระบอกเลนส์ ที่มีการทำงานร่วมกับตัวกล้องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เช่นเดียวกับเลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ไวแสง F2.8 ที่มีชิ้นเลนส์ชิ้นหน้าขนาดใหญ่มากและไม่มีเกลียวยึดฟิลเตอร์มาให้ จึงต้องใช้ฟิลเตอร์แบบ Slot-in ขนาดเล็กมาใส่ที่บริเวณท้ายของเลนส์ โดยตัวฟิลเตอร์จะมีขนาด 40.5 mm. และต้องใช้ตัวยึดพิเศษเพื่อใส่ฟิลเตอร์เข้าไปในกระบอกเลนส์ เลนส์ฮูดมีขนาดใหญ่มาพร้อมกับเลนส์ที่ยึดเข้ากับกระบอกเลนส์ได้อย่างแน่นหนาและเช่นเดียวกับเลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ขนาดใหญ่ที่บริเวณส่วนปลายของฮูดบังแสงจะมีขอบยางขนาดใหญ่เอาไว้สำหรับวางเลนส์ไว้บนพื้นเรียบได้ในแนวตั้งในขณะที่พักรอใช้งานระหว่างการแข่งขันหรือรอตัวแบบ ขาคอลาห์มีขนาดใหญ่ แข็งแรง สามารถหมุนปรับกล้องเพื่อถ่ายภาพในแนวตั้ง/นอนได้ทันทีอย่างรวดเร็วเมื่อยึดอยู่กับขาตั้งกล้อง

นอกจากนี้เลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS ยังมาพร้อมกับเทเลคอนเวอร์เตอร์ ช่วยเพิ่มกำลังขยายภาพได้ ถึง 2 รุ่น (อุปกรณ์เสริม) 1.4X (SEL14TC) และ 2X ( SEL20TC) 

ggggg

สำหรับการทดสอบใช้งานจริงในการถ่ายภาพนักไรเดอร์มือโปรเวคบอร์ดระดับมืออาชีพ ซึ่งจะแตกต่างไปจากการถ่ายภาพคนเล่นทั่วๆไปเป็นอย่างมาก ทั้งจากความเร็วในการฉีกน้ำเพื่อเร่งความเร็วก่อนเล่นท่าและการเล่นท่าที่มีความยากมากกว่า โดยเฉพาะในการเล่นกับอุปกรณ์ต่างๆ อาทิ คิ๊กเกอร์ ( Kicker ) ซึ่งเป็นอุปกรณ์หลักที่ช่วยให้ไรเดอร์สามารถทำการกระโดดหมุนตัว ตีลังกาได้  ซึ่งเลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS สร้างความประทับใจให้เมื่อประกอบเข้ากับบอดี้กล้องรุ่นโปรอย่าง Sony A9 นอกเหนือไปจากจากน้ำหนักที่เบากว่าแล้ว ก็คือการกระจายน้ำหนักของตัวเลนส์และกล้องได้อย่างมีความสมดุล ทำให้เลนส์ไม่หนักไปทางด้านหน้า ซึ่งจะมีประโยชน์มากสำหรับช่างภาพสายมอเตอร์สปอร์ต หรือสายเอ็กสตรีมที่ต้องทำการแพนกล้องเพื่อถ่ายภาพอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งจากน้ำหนักที่เบาขึ้นช่วยให้สามารถใช้มือถือกล้องทำการถ่ายภาพโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องหรือโมโนพอดช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเก็บภาพได้อย่างสะดวกคล่องตัว

ภาพถ่ายที่ได้จากเลนส์  Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS นั้นมีความคมชัดและใสเคลียร์ เต็มไปด้วยรายละเอียดอย่างครบถ้วนสวยงาม ตามสไตล์เลนส์ในตระกูล G Master  เลนส์สามารถรับมือกับสภาพแสงที่แตกต่างกันได้อย่างยอดเยี่ยม สามารถรับมือกับการเกิดแสงแฟลร์หรืออาการคลาดสีหรือผิดเพี้ยนใดๆให้เห็นเลยในการทดสอบ ความเร็วในการโฟกัสภาพก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ทำให้เลนส์ Sony FE 400 mm  F2.8 GM OSS สามารถก้าวเข้ามาอยู่ในกลุ่มของเลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ไวแสงสูงระดับ F2.8 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ

ggg

Lens Specifications

เลนส์เมาท์ Sony E- mount

ฟอร์แมท  35 mm. Full frame

ความยาวโฟกัส 400 mm. (Full frame) / 600 mm. (APS-C)

โครงสร้างเลนส์  23 ชิ้น  (รวมฟิลเตอร์)  17 กลุ่ม

ช่องรับแสง f/2.8 - f/22

ขอขอบคุณ Thai Wake Park ลำลูกกา สำหรับสถานที่ในการทดสอบเลนส์ในครั้งนี้

จำนวนแผ่นไดอะแฟรม  11 แผ่น

ระยะโฟกัสใกล้สุด 2.7 เมตร

ขนาดฟิลเตอร์ 40.5 mm. ( Slot-in )

เทเลคอนเวอร์เตอร์ X1.4 ( SEL14TC) / X2.0 (SEL20TC)

ขนาด 359 mm. X 158 mm.

น้ำหนัก 2,895 กรัม

ราคา 429,990 บาท