Skateway Life

Olympus Tough TG-5

กล้องคอมแพคสายลุยไม่ต้องคุยให้เสียเวลา

September 19, 2017
26492 Views

คงไม่ต้องกล่าวแนะนำกันให้ยืดยาวสำหรับสุดยอดกล้องคอมแพคจอมอึดในตระกูล Tough จาก Olympus ที่เป็นขวัญใจของเหล่าบรรดาชาวเอ็กสตรีมและนักท่องเที่ยวผจญภัยทั่วโลกที่ต้องการกล้องถ่ายภาพที่ใช้งานง่าย มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกติดตัวได้อย่างสะดวก พร้อมทุกขณะเพื่อบันทึกภาพได้ทันท่วงทีทุกท่ีทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นใต้นำ้ บนบก บนท้องฟ้า ใต้พื้นดิน ได้อย่างคมชัดสวยงามสมจริงอย่างที่กล้องประเภทอื่นไม่สามารถทำได้ แน่นอนว่าจากการที่ทาง Olympus นั้นนับได้ว่าเป็นบริษัทแรกๆที่ทำการบุกเบิกกล้องคอมแพคสายลุย ที่ถึงตอนนี้เป็นกล้องในเจนเนอร์เรชั่นที่ 5 ของตระกูล Tough จึงทำให้เป็นที่น่าสนใจว่าทาง Olympus จะได้มีการอัพเดทคุณสมบัติและเพิ่มประสิทธิภาพใหม่ๆ อะไรบ้างให้กับกล้อง Tough TG5 ในครั้งนี้

คุณสมบัติครบถ้วนพร้อมลุย

เมื่อมองจากรูปทรงและหน้าตาภายนอกแล้วกล้อง TG5 นั้นดูแทบจะไม่แตกต่างไปจากกล้องรุ่น TG4 รุ่นก่อนหน้าด้วยมิติภายนอกที่ต่างกันเพียงแค่ในส่วนความยาวของตัวกล้องที่มากกว่าเพียง 1 มิลลิเมตร (112 มิลลิเมตร/113 มิลลิเมตร) และความหนาของกล้องที่มากกว่าเพียง 1 มิลลิเมตรเช่นกัน (31 มิลลิเมตร/32 มิลลิเมตร) ในขณะที่มีนำ้หนักของตัวกล้องที่ต่างกันเพียง 3 กรัม (247 กรัม / 250 กรัม)

โดยในครั้งนี้ทาง Olympus  ได้ทำการปรับเปลี่ยนสวิทซ์ซูมจากเดิมที่เป็นสวิทซ์โยกซ้ายขวาเพื่อซูมเข้า/ออก และเคยอยู่ที่บริเวณมุมขวาด้านบนข้างปุ่มชัตเตอร์ให้มาเป็นแบบคานโยกวงแหวนล้อมรอบปุ่มกดชัตเตอร์ และเพิ่มแป้นหมุนปรับตั้งค่าชดเชยแสงเข้าไปแทน ซึ่งเป็นตำแหน่งของกล้องที่ง่ายต่อการใช้นิ้วโป้งเลื่อนหมุนปรับได้ทันทีที่ต้องการ ด้านซ้ายบนของกล้องยังมีสวิทซ์คานโยกขนาดจิ๋วใช้เปิด/ปิด ระบบบันทึกข้อมูล Log ของสถานที่ที่ถ่ายภาพเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

แต่สิ่งที่สำคัญที่เป็นจุดขายของกล้อง TG5 นั้นอยู่ที่ภายในของตัวกล้องนั่นคือเซ็นเซอร์ภาพรุ่นใหม่ ที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขนาด 1/2.3 นิ้ว (6.17 x 4.55 มม.) แบบ BSI-CMOS และหน่วยประมวลผล TruePic VIII ประสิทธิภาพสูงแบบเดียวกับที่ใช้อยู่ในกล้องระดับโปรรุ่นใหญ่อย่าง Olympus OM-D E-M1 Mark II 

หลายคนอาจจะสงสัยในเรื่องการลดความละเอียดของเซ็นเซอร์ภาพลงจากเดิม 16 ล้านพิกเซลในกล้องรุ่น TG4 ให้ลดลงมาเหลือที่ 12 ล้านพิกเซลในกล้องรุ่น TG5   ซึ่งเมื่อดูจากขนาดของเซ็นเซอร์ของทั้งกล้อง TG4 และ TG5 นั้นมีขนาดของตัวเซ็นเซอร์ที่เท่ากันนั่นคือ 1/2.3 นิ้ว (6.17 มม.x4.55มม.)  แต่เนื่องจากเซ็นเซอร์ของกล้อง TG5 นั้นมีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลที่น้อยกว่าช่วยทำให้สามารถทำการออกแบบเซ็นเซอร์ของกล้อง TG5 ให้มีขนาดพิกเซลให้มีพื้นที่ในการรับแสงได้ใหญ่มากกว่าถึง 32% ซึ่งช่วยทำให้ตัวพิกเซลมีพื้นที่ในการรับแสงได้อย่างเต็มที่และยังถูกจัดเรียงได้ห่างกันมากกว่าส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการรับแสงได้เหนือกว่าช่วยลดการเกิด Noise ในสภาพแสงน้อยและเมื่อใช้ค่า ISO สูงๆได้เป็นอย่างดี

อีกทั้งจากการใช้หน่วยประมวลผล TruPic VIII รุ่นล่าสุดที่มีประสิทธิภาพและชาญฉลาดของกล้อง TG5 ยังช่วยให้มีค่าความไวแสงที่มีช่วงกว้างมากขึ้น (จากรุ่นเดิมที่ครอบคลุม ISO 100-6400)  มาเป็นช่วง ISO 100-12800 ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานภายใต้สภาพแสงน้อยได้อย่างคล่องตัว

แน่นอนว่าในส่วนของคุณสมบัติการใช้งานด้านอื่นๆที่มีประโยชน์และยังคงถูกบรรจุเอาไว้อย่างครบครันเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการรองรับการใช้งานที่สมบุกสมบัน ตั้งแต่การทนทานต่อการตก (Shockproof) จากความสูง 2.1 เมตร การทนทานต่อการกดทับจากน้ำหนัก 100 กิโลกรัม (Crushproof) ทนต่อสภาพอุณหภูมิที่ตำ่กว่า -10 องศาเซลเซียส (Freezproof) และกันน้ำได้ลึกได้ถึง 15 เมตร (Waterproof) โดยมีเฮ้าส์ซิ่งดำน้ำเฉพาะกิจรุ่น PT-058 ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับกล้องรุ่น TG5 ซึ่งช่วยให้สามารถนำกล้องลงไปถ่ายภาพใต้นำ้ลึกได้ถึง 45 เมตร อย่างมั่นใจง่ายต่อการจับถือใช้งานและสามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆสำหรับการถ่ายภาพใต้นำ้ได้อย่างสะดวก 

ในขณะที่เหล่าบรรดาฟังก์ชั่นประจำตัวของกล้องในตระกูล Tough ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่น Wifi ระบบ GPS ที่ช่วยให้ข้อมูลที่มีประโยชน์อย่างเซ็นเซอร์อุณหภูมิ ด้วย Field Sensor ต่างๆที่จะช่วยบันทึกข้อมูลต่างๆควบคู่ไปกับภาพถ่ายยังคงได้รับการบรรจุมาให้อย่างเต็มที่เช่นเคย  

ที่สำคัญในครั้งนี้กล้อง TG5 สามารถรองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุดระดับ 4K ที่ให้ภาพที่คมชัดสูงมากกว่าความละเอียดระดับ Full HD ถึง 4 เท่า ในขณะที่ยังสามารถถ่ายวีดีโอด้วยเฟรมเรทขนาด 120 fps ในโหมด Full HD สำหรับนำมาทำวีดีโอแบบสโลโมชั่นที่นุ่มนวล สวยงามได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้แล้วยังมีโหมดอัจฉริยะอย่าง Pro Capture แบบเดียวกับในกล้องระดับโปรรุ่น OM-D E-M1 Mark II  ช่วยเก็บภาพแอคชั่นล่วงหน้าได้อย่างครบถ้วน และที่ขาดไม่ได้ของกล้องตระกูล TG ก็คือฟังก์ชั่นการถ่ายภาพมาโครที่มีโหมดภาพมาโครให้เลือกใช้ถึง 4 โหมด ได้แก่ โหมดไมโครสโคปที่ถ่ายภาพได้ใกล้วัตถุสูงสุดเพียง 1 เซนติเมตรและยังสามารถใช้กับออปติคอลซูม ทำการซูมเข้าช่วยเพิ่มกำลังขยายได้มากถึง 7X   โหมดควบคุมไมโครสโคปที่ให้ค่ากำลังขยายที่หลากหลายสลับไปมาด้วยการแตะหน้าจอหนึ่งครั้งโดยให้ค่ากำลังขยายได้ถึง 44.4 X โหมด Focus Stacking และโหมด Focus Bracketing ที่ช่วยให้ได้ภาพที่มีจุดโฟกัสถูกต้องอย่างแน่นอน

โหมดไมโครสโคปช่วยเปิดโลกทัศน์ด้วยมุมมองอันน่าทึ่ง ด้วยกำลังขยายได้มากถึง 7X ช่วยให้เห็นภาพของตัวแบบที่มีขนาดเล็กจิ๋วมากจนแทบไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าดังเช่นในภาพ ที่ตัวจริงนั้นมีขนาดเล็กพอๆกับเม็ดทราย

ผลงานภาพถ่ายระดับมืออาชีพ

ต้องยอมรับว่า TG5 นั้นอัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นถ่ายภาพที่รองรับกิจกรรมแบบสุดขั้วที่ท้าทายต่างๆได้อย่างเกินพอ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวผจญภัย กีฬาเอ็กสตรีมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอย่างเจ็ทสกี วินด์เสริฟ เรือใบ เวคบอร์ด หรือจะเป็นทางบกอย่างจักรยานเอ็นดูโร่ มอเตอร์ไซด์วิบาก เทรคกิ้ง ไปจนถึงทางอากาศอย่าง พารามอเตอร์ โดดร่ม ร่มบิน เป็นต้น

โดยในครั้งนี้เราได้เน้นการทดสอบประสิทธิภาพการถ่ายภาพใต้น้ำของกล้อง TG5 ซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นที่สร้างชื่องชื่อเสียงเป็นอย่างมากให้กับ TG4 รุ่นพี่จากผลงานภาพถ่ายใต้นำ้ที่คมชัดสวยงามจากเฉพาะกิจที่ชาญฉลาดมากมายที่มากับกล้องซึ่งเป็นจังหวะและได้มีโอกาสนำกล้องไปออกทริปดำน้ำลึกกับทีมงาน Walrus Driving School โดยมีครูโอ๊ต Walrus เป็นผู้ดูแลทริปและเป็นผู้ที่ใช้งานกล้อง TG4 อยู่แล้วนำกล้อง TG5 ไปทดลองใช้งานจริงตลอดทริปดำน้ำเกาะเต่า  ซึ่งเป็นหมายดำนำ้ยอดนิยมทางฝั่งอ่าวไทยตอนล่างอีกทั้งทางครูโอ๊ตได้ส่งข่าวมาว่าในช่วงนี้มีน้องจุดหรือน้องฉลามวาฬเข้ามาแวะเวียนโชว์ตัวทักทายเหล่าบรรดานักดำน้ำกันให้หายคิดถึงอีกทั้งยังได้มีโอกาสดำน้ำเยี่ยมชมเรือจม ( Wrack Dive) เรือหลวงปราบ 741 ( H.T.M.S PRAB ) ที่มีประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งและยังคงมีสภาพตัวเรือที่สมบูรณ์เหมาะสำหรับการหามุมถ่ายภาพได้อย่างหลากหลายและยังมีประวัติเรือที่น่าสนใจมากโดยที่เรือหลวงปราบเป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดเล็กสามารถบรรทุกกำลังคนได้ 54 นายตัวเรือมีความยาว 48.46 เมตรความสูง 16.90 เมตรความกว้างประมาณ 8 เมตรจมอยู่ที่ความลึก 22 เมตร  เรือหลวงปราบมีชื่อเดิมว่า USS LCI (M) - 670 ซึ่งเป็นเรือที่กองทัพเรือสหรัฐต่อขึ้นเมื่อปี 2487 ที่รัฐแมซซาชูเสทเคยเข้าร่วมภารกิจในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในการยกพลขึ้นบกที่ชายฝั่งนอร์มังดีประเทศฝรั่งเศษในช่วงวันที่ 15 สิงหาคม - 16 กันยายน 2487 ภายหลังทางสหรัฐได้มอบเรือให้กับประเทศไทยและได้รับพระราชทานชื่อว่า “เรือหลวงปราบ” สังกัดกองเรือยกพลขึ้นบกกองเรือยุทธการหลังจากประจำการมาได้ 50 ปีจึงถูกปลดประจำการเมื่อวันที่ 9 กุมพาพันธ์ 2549 และได้ถูกนำมาวางไว้ใต้ท้องทะเลทางทิศตะวันออกของเกาะง่ามน้อยเพื่อเป็นประการังเทียมและเป็นการสร้างแหล่งดำน้ำแห่งใหม่ให้กับทะเลฝั่งอ่าวไทยตามโครงการแหล่งเรียนรู้เรือหลวงไทยใต้ทะเลชุมพร

หลังจากได้ทราบประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของจุดดำน้ำในครั้งนี้แล้วทางครูโอ๊ตได้นำกล้อง TG5  บรรจุเข้าไปในเฮ้าส์ซิ่งดำน้ำเฉพาะกิจรุ่น PT-058 ซึ่งก็สามารถทำได้อย่างสะดวกรวดเร็วจากการออกแบบมาโดยตรงเพื่อใช้งานกับกล้องรุ่นนี้โดยเฉพาะแต่เนื่องจากตัวบอดี้ของกล้อง TG5 มีการปรับเพิ่มแป้นหมุนตั้งค่าชดเชยแสงบริเวณมุมขวาบนของกล้องทำให้ไม่สามารถใช้กับเฮาส์ซิ่งตัวเก่าที่เคยใช้กับรุ่น TG4 ได้ 

วงแหวนอแดปเตอร์รอบเลนส์สามารถถอดเปลี่ยนเพื่อให้รองรับการใช้งานกับเฮาส์ซิ่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เลนส์ซูมกำลังขยายขนาด 4X (เทียบเท่า 25-100 มม.) ให้ภาพถ่ายที่คมชัด ให้มุมมองที่ครอบคลุมได้ดีในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามสามารถหาเลนส์เสริมคุณภาพสูงได้จากของ Olympus เองและจากผู้ผลิตอิสระโดยเฉพาะมาใช้งานร่วมกับเฮาส์ซิ่งได้อย่างสะดวก 

โดยในการทดสอบครั้งนี้เราตั้งใจที่จะใช้งานกล้อง TG5 ในแบบตรงไปตรงมาโดยไม่ได้ใช้อุปกรณ์เสริมพิเศษเฉพาะกิจมาช่วยเสริมขีดความสามารถให้กับกล้อง  จะใช้ก็เพียงตัวกล้องกับเฮาส์ซิ่งร่วมกับไฟฉายใต้น้ำแบบ LED ของ INON รุ่น LF2700-W ที่มีขนาดเล็กใช้งานสะดวกจากแสงสว่างแบบต่อเนื่อง 5000K ขนาด 2700 ลูเมน  เหมาะกับการให้แสงสว่างกับตัวแบบที่มีขนาดเล็กมากๆภาพในแนวมาโครเป็นอย่างดี

โหมดถ่ายภาพไมโครสโคปใช้ร่วมกับแสงสว่างจากไฟฉายใต้น้ำแบบ LED ให้ผลลัพท์ภาพถ่ายที่สวยงามและมีความคมชัดอย่างน่าประทับใจจากกำลังขยายที่สูงมากเป็นพิเศษ โทนสีส้มที่เห็นในภาพนั้นคือสนิมเหล็กบนพื้นเรือที่ถูกขยายขึ้นให้เห็นอย่างชัดเจน

กล้อง TG5 มีระบบวัดแสงที่ให้ภาพที่มีค่าเปิดรับแสงที่ถูกต้องแม่นยำ ทำให้สามารถใช้งานร่วมกับแสงไฟต่อเนื่องของไฟฉายใต้น้ำได้อย่างกลมกลืนสวยงาม

กล้อง TG5 มีการตอบสนองการใช้งานใต้น้ำได้อย่างน่าประทับใจเช่นเคยเหมือนกับที่เคยได้จากกล้อง TG4  แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนขึ้นจากเดิมก็คือความรวดเร็วฉับไวของการตอบสนองต่อการทำงานด้านต่างๆของกล้องไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความเร็วในการโฟกัสภาพ การประมวลผลภาพและในเรื่องของการรับมือกับการเกิด Noise ในภาพเมื่อใช้งานกับการถ่ายภาพใต้น้ำ ที่มักจะใช้ค่าความไวแสงที่ค่อนข้างสูงในการถ่ายภาพมากกว่าจะใช้แสงสว่างจากไฟแฟลช  ซึ่งภาพถ่ายที่ได้ในครั้งนี้มี Noise ในภาพเกิดขึ้นให้เห็นน้อยลงอย่างสังเกตได้ เช่นเดียวกับมีรายละเอียดของภาพที่ใสเคลียร์มากขึ้น  ซึ่งตอบคำถามในเรื่องการลดค่าความละเอียดของเซ็นเซอร์ภาพลงเพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่รับแสงที่เพิ่มมากขึ้นได้เป็นอย่าง

มุมถ่ายภาพยอดนิยมกับรถมินิที่ถูกนำมาวางไว้ที่อ่าวลึก เกาะเต่า ภาพนี้อาศัยใช้แสงสว่างจากไฟ LED จากกล้องของนักดำน้ำคนอื่นในทริปเดียวกันที่กำลังถ่ายภาพอยู่ในอีกมุมหนึ่งให้เป็นประโยชน์

กล้อง TG5 เก็บภาพถ่ายมุมกว้างๆได้อย่างคมชัดสวยงาม ด้วยโหมดถ่ายภาพใต้น้ำอัตโนมัติของกล้อง

ถึงแม้ว่าในทริปนี้เราอาจจะไม่ได้เจอเจ้าฉลามวาฬยักษ์ใหญ่ใจดีตามที่ตั้งใจ แต่เราก็ได้ภาพถ่ายสวยๆ ติดมือกลับมามากมายทั้งจากหมายเรือจมที่ตระการตาและภาพของเหล่าบรรดาทากทะเลตัวจิ๋วมากมายที่มีรูปร่างหน้าตาอันหลากหลายและมีสีสันแปลกตาที่สดใสสวยงามอย่างน่าทึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของกล้อง TG5 ภายใต้สภาพการใช้งานจริงในครั้งนี้ที่ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ต้นจนจบทริปได้อย่างสมบูรณ์แบบ

กล้องสามารถเก็บภาพฝูงปลาสากเหลืองที่กำลังว่ายอยู่กลางน้ำไว้ได้อย่างคมชัด

ภาพของดอกไม้ทะเลที่มีรูปทรงสวยงามและยังคงมีสีสันให้เห็นจากความลึกระดับ 9 เมตร  โดยที่ไม่ได้มีการใช้ไฟแฟลชช่วยเพิ่มแสงสว่างใดๆ 

โหมดถ่ายภาพไมโครสโคปของกล้อง TG5 นับเป็นจุดเด่นที่ทำให้กล้องนี้มีความโดดเด่นเหนือกว่ากล้องคอมเพคใต้น้ำหลายๆรุ่นในท้องตลาดได้อย่างไม่ต้องสงสัย 

You may be interested

ฟูจิฟิล์ม เปิดแคมเปญ “Make More Magic” ถ่ายทอดความรู้สึกยิ่งใหญ่ที่ไฟล์ดิจิทัลให้ไม่ได้ ส่งสื่อโฆษณา TVC และ OOH แสนอบอุ่นใจ ตอกย้ำการสร้าง “MAGIC MOMENT” ด้วยฟิล์มอินสแตกซ์
นำเสนอปรินเตอร์ฟิล์มอินสแตนท์ 3 รุ่น มาพร้อมคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์
แต่งแต้มความสุขสนุกสนาน ให้ทุกความทรงจำพิเศษกว่าที่เคย!
NEWS
368 views
NEWS
368 views

ฟูจิฟิล์ม เปิดแคมเปญ “Make More Magic” ถ่ายทอดความรู้สึกยิ่งใหญ่ที่ไฟล์ดิจิทัลให้ไม่ได้ ส่งสื่อโฆษณา TVC และ OOH แสนอบอุ่นใจ ตอกย้ำการสร้าง “MAGIC MOMENT” ด้วยฟิล์มอินสแตกซ์
นำเสนอปรินเตอร์ฟิล์มอินสแตนท์ 3 รุ่น มาพร้อมคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์
แต่งแต้มความสุขสนุกสนาน ให้ทุกความทรงจำพิเศษกว่าที่เคย!

skatewaylife - December 30, 2023

บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดแคมเปญโฆษณาชุดพิเศษภายใต้ แท็กไลน์ “Make More Magic” ครอบคลุมทั้งสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ (TVC) และสื่อโฆษณานอกบ้าน (Out of Home - OOH) ถ่ายทอดเรื่องราวการเก็บทุกช่วงเวลาดี ๆ ในชีวิตด้วยภาพปรินต์อินสแตกซ์จากปรินเตอร์ฟิล์มของฟูจิฟิล์มที่เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้ง่าย…

ไทย ปลุกกระแส ปาร์กัวร์ 
ผ่านโปรเจ็ค Run The Ship โดย Red Bull และ Team Farang
NEWS
477 views
NEWS
477 views

ไทย ปลุกกระแส ปาร์กัวร์ 
ผ่านโปรเจ็ค Run The Ship โดย Red Bull และ Team Farang

skatewaylife - May 25, 2023

Red Bull และ Team Farang นำเสนอมิติใหม่วงการปาร์กัวร์ไทย กับโปรเจ็ค Run The Ship ที่เกิดขึ้นบนเรือที่ถูกทิ้งร้างในถิ่นทุรกันดารอันกว้างใหญ่ของไทย นับตั้งแต่โปรเจ็คนี้ประสบความสำเร็จ Team Farang ก็ได้รับการชื่นชมในหมู่คนในท้องถิ่นว่ามีความคิดสร้างสรรค์และมีวิสัยทัศน์ [siteorigin_widget class="SiteOrigin_Widget_Image_Widget"][/siteorigin_widget][siteorigin_widget class="SiteOrigin_Widget_Image_Widget"][/siteorigin_widget] Team Farang…

ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย เปิดตัว INSTAX mini 12
กล้องฟิล์มอินสแตนท์รุ่นใหม่ ชูดีไซน์สวยโดดโด่นในโทนพาสเทลสดใส
NEWS
736 views
NEWS
736 views

ฟูจิฟิล์ม ประเทศไทย เปิดตัว INSTAX mini 12
กล้องฟิล์มอินสแตนท์รุ่นใหม่ ชูดีไซน์สวยโดดโด่นในโทนพาสเทลสดใส

skatewaylife - March 7, 2023

บริษัท ฟูจิฟิล์ม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวกล้องฟิล์มอินสแตนท์รุ่นใหม่ล่าสุด “INSTAX mini 12” ภายใต้สโลแกน “Fill your world with joy” ชวนคนรุ่นใหม่ที่รักการถ่ายภาพมาร่วมแต่งแต้มความสุขให้ชีวิตด้วยกล้องฟิล์มอินสแตนท์ที่ใช้ง่ายที่มาพร้อมลูกเล่นสนุก ๆ พร้อมให้คุณแชร์ความทรงจำดี ๆ กับเพื่อน ๆ…